ก็อดลิ่ง (Godling)

ก็อดลิ่งบนหมู่เกาะสเกลลิเกะ

ก็อดลิ่ง เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทรีลิคท์ที่พบเจอได้ยาก การขยายถิ่นฐานของมนุษย์ทำให้พวกมันตกอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์เต็มที แต่เดิมพวกก็อดลิ่งจะอาศัยอยู่ในป่าบริเวณที่มีหนองบึง ด้วยขนาดร่างกายที่เล็กพอ ๆ กับเด็กและธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ที่ไม่ชอบความรุนแรง ก็อดลิ่งจึงแทบไม่มีทางป้องกันตัวจากมนุษย์ได้ ทางรอดของมันจึงเหลือเพียงการหลบหนีหรือซ่อนตัวให้มิดชิดเท่านั้น

ก็อดลิ่งมีสีผิวออกเทา ๆ ตรงช่วงลำตัวมีลวดลายสีเหลืองทอง ดวงตากลมโตสีฟ้าหรือสีเหลือง เครื่องแต่งกายของพวกมันทำมาจากเสื้อผ้าขาด ๆ หรือเศษผ้ารุ่งริ่ง และสวมเครื่องประดับศีรษะที่ทำมาจากกิ่งไม้ใบหญ้า ก็อดลิ่งสามารถใช้เวทมนตร์บางอย่างได้ เช่น การสะกดรอย การรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยที่ไม่รุนแรง และการแทรกแซงความฝันของผู้อื่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ภาษามนุษย์และพูดคุยกับสัตว์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย ก็อดลิ่งมีทั้งเพศชายและเพศหญิง แต่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องการสืบเผ่าพันธุ์หรืออายุขัยของพวกมันเลย

นอกจากจะมีรูปร่างคล้ายเด็กแล้ว ก็อดลิ่งก็ยังมีนิสัยคล้ายเด็กอีกด้วย พวกมันขี้สงสัย ชอบความสนุกสนาน และบางครั้งก็ชอบแกล้งคนอื่นเล่น แต่ก็อดลิ่งไม่สามารถทำร้ายใครได้เนื่องจากพวกมันไม่มีทักษะด้านการต่อสู้เลย และยังไม่มีเขี้ยวเล็บหรือพลังอำนาจที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น วิธีที่มันใช้รับมือกับพวกมนุษย์นิสัยไม่ดีคือการแกล้งทำตัวเป็นภูตผีปีศาจเพื่อขู่ให้คนเหล่านั้นหวาดกลัวและหนีเตลิดไป

ก็อดลิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏในจักรวาลเกมของ CDPR เท่านั้น โดยในเกม The Witcher 3 เราจะพบกับก็อดลิ่งทั้งหมด 3 ตน ได้แก่ จอห์นนี (Johnny) ซาราห์ (Sarah) และก็อดลิ่งบนหมู่เกาะสเกลิเกะ แม้แต่เกรอลท์ที่เป็นวิทเชอร์มานานก็ยังเข้าใจผิดว่าจอห์นนีเป็นตัวบัคคา (bucca หรือ knocker เป็นสิ่งมีชีวิตประเภท ogroid ที่ชอบอาศัยอยู่ตามโพรงถ้ำ) ส่วนซีรีก็คิดว่าพวกก็อดลิ่งเป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ เท่านั้น

จอห์นนี

จอห์นนีอาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านเด็กกำพร้าแห่งบึงหลังค่อมในเวเลน และชอบออกไปเล่นกับพวกเด็ก ๆ อยู่เสมอ แต่อยู่มาวันหนึ่งจอห์นนีตื่นมาแล้วก็พบว่าเสียงของตัวเองหายไปจนทำให้เขาพูดไม่ได้ จนกระทั่งจอห์นนีได้พบกับเกรอลท์และวิทเชอร์ก็ช่วยให้เขากลับมาพูดได้อีกครั้ง ก็อดลิ่งจึงอธิบายว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นฝีมือของพวกสามแม่เฒ่าเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลุดปากเล่าเรื่องของซีรี

ส่วนซาราห์นั้นกลับมีเหตุให้ต้องไปอาศัยอยู่ในเมืองโนวิกราด เธอพยายามไล่พวกมนุษย์ออกไปจากบ้านหลังนั้นโดยสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่ามันเป็นบ้านผีสิง และยังกลั่นแกล้งคอรินน์ ทิลลี (Corinne Tilly) นักพยากรณ์จากความฝันที่เจ้าของบ้านจ้างมาให้ติดอยู่ในฝันร้าย (เควสท์ Novigrad Dreaming) ซึ่งเกรอลท์สามารถเลือกได้ว่าจะทำข้อตกลงกับซาราห์และปล่อยให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป หรือจะขับไล่เธอออกจากบ้านด้วยการเผาช่อเบอร์ด็อค (burdock) ซึ่งเป็นสมุนไพรที่พวกก็อดลิ่งแพ้กลิ่นของมัน

หากเลือกปล่อยให้ซาราห์อยู่บ้านหลังนี้ต่อไป คอรินน์จะซื้อบ้านหลังนี้จากเจ้าของเดิมในราคาที่ถูกมาก และซาราห์จะอาศัยอยู่กับคอรินน์ต่อไป และในเควสท์ Bald Mountain เราจะได้พบจอห์นนีเพียงแค่คนเดียว

แต่ถ้าเลือกไล่ซาราห์ออกจากบ้าน เธอจะออกจากเมืองโนวิกราดแล้วเดินทางไปยังเมืองเวเลน ซาราห์ได้ยินเรื่องราวของจอห์นนีจากนกสีดำตัวหนึ่ง เธอจึงเดินทางไปอาศัยอยู่ด้วยกันกับจอห์นนีที่บึงหลังค่อม และในเควสท์ Bald Mountain เราจะได้พบก็อดลิ่งทั้งสองตนมาร่วมงานซับบาธของพวกสามแม่เฒ่าที่ภูเขาหัวโล้นด้วย จอห์นนีจะโกรธเกรอลท์ที่ไล่ซาราห์ออกมาจากบ้านหลังนั้น แต่ซาราห์กลับบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ดีแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่ได้พบกับจอห์นนี

ซาราห์

 

สิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งที่ต้นกำเนิดของมันมาจากตำนานของชาวสลาฟ ก็อดลิ่งนั้นไม่ใช่มอนสเตอร์ อย่างน้อยก็ในความหมายเชิงดูหมิ่นของคำคำนี้ พวกก็อดลิ่งในตำนานคือภูตผู้พิทักษ์ที่คอยดูแลบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา นำโชคลาภเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้โดยแลกกับของเซ่นไหว้อย่างอาหารและเครื่องดื่มที่พวกชาวบ้านนำมาวางไว้ให้ เนื่องจากไม่มีคำบรรยายลักษณะของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้หลงเหลืออยู่ ศิลปินของเราจึงมีอิสระอย่างมากในการออกแบบรูปลักษณ์ของพวกเขา ก็อดลิ่งในโลกของเดอะวิทเชอร์นั้นดูคล้ายกับเด็กที่มีสีหน้าเคร่งเครียด ใบหน้ามีรอยย่นและดวงตาขนาดใหญ่ที่ดูขุ่นเคือง เดินเท้าเปล่าและมีโคลนพอกอยู่ทั้งตัว พวกเขาสวมเครื่องแต่งกายที่ทำมาจากเศษผ้ารุ่งริ่งเย็บติดกันอย่างง่าย ๆ แม้ในตอนแรกพวกเขาอาจจะดูน่ากลัว แต่หากคุ้นเคยกันมากขึ้นพวกเขาก็จะเป็นมิตรและมีประโยชน์ตามวิถีทางของพวกเขาเอง ซึ่งทำให้ก็อดลิ่งแตกต่างจากสิ่งมีวิตอื่น ๆ ในแถบนี้ที่มักเป็นอันตรายมากกว่า

- หน้า 170 หนังสือ The Witcher 3: Wild Hunt Artbook (2015)

 

The Witcher 3: Wild Hunt

Bestiary: Godling

ย้อนกลับไปเมื่อไม่นานมานี้ พื้นที่รอบ ๆ หมู่บ้านขนาดเล็กเคยเด็มไปด้วยภูตผู้พิทักษ์ แต่ทุกวันนี้ไม่มีทางที่เราจะได้เห็นบราวนี บัคคา หรือลูติน* และพวกก็อดลิ่งก็มักเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรกที่หายไป เป็นราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อแลกกับการขับเคลื่อนอารยธรรมไปข้างหน้า

- จากคำนำของหนังสือ “โลกที่เราสูญเสียไป” โดยศาสตราจารย์โดร์เรกาเรย์

ก็อดลิ่ง (บางครั้งก็ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นบัคคา) เป็นสิ่งมีชีวิตในป่าที่สร้างรังอยู่ตามเนินดินหรือตอไม้กลวง ๆ ที่มีมอสขึ้นปกคลุมตามชายขอบของชุมชนมนุษย์ พวกมันมีความคล้ายคลึงกับพวกเด็ก ๆ ทั้งพฤติกรรมและรูปร่าง และยังคล้ายตรงที่มีนิสัยชอบเล่นสนุกโดยการกลั่นแกล้งคนอื่น ก็อดลิ่งนั้นผูกพันกับถิ่นอาศัยเป็นอย่างมากและจะคอยทำหน้าที่ดูแลปกป้องอาณาเขตรอบ ๆ เนินดินที่มันอาศัยอยู่ คอยดูแลผู้คนและสรรพสัตว์ แต่ด้วยนิสัยขี้อายพวกมันจึงพยายามหลบเร้นไม่ให้ใครพบเห็นง่าย ๆ ก็อดลิ่งชอบความสนุกสนานและความไร้เดียงสา ดังนั้นพวกมันจึงชอบเล่นกับพวกเด็ก ๆ และยอมปรากฏตัวให้เด็กเห็นเท่านั้น

สิ่งมีชิวิตที่เฉลียวฉลาดและวิริยอุตสาหะชนิดนี้ยังเต็มใจช่วยเหลือใครก็ตามที่พวกมันสนใจ ขอเพียงให้เกียรติและมอบอาหารหรือเครื่องไม้เครื่องมือให้สักชิ้นก็พอ ก็อดลิ่งจะหงุดหงิดได้ง่ายจากพฤติกรรมก้าวร้าว เนรคุณ หรือแค่แสดงความหยาบคายให้เห็น นอกจากนี้พวกมันยังหวงแหนความเงียบสงบเป็นที่สุด เมื่อหมู่บ้านที่พวกก็อดลิ่งดูแลเริ่มขยายตัวมากเกินไป หรือเหล่าผู้อยู่อาศัยพากันหลงลืมวิถีชีวิตดั้งเดิม พวกก็อดลิ่งก็จะละทิ้งเนินดินแห่งนั้นไปอย่างถาวรและออกเดินทางไปยังจุดหมายที่ไม่มีใครรู้

 

หมายเหตุ: บราวนี (brownie) และ ลูติน (lutin) เป็นภูตตัวเล็ก ที่มักปรากฏตัวตามบ้านเรือนของมนุษย์ บางครั้งก็มาเพื่อช่วยทำงานบ้านและดูแลสัตว์เลี้ยง แต่บางครั้งก็เข้ามาก่อความวุ่นวายให้เจ้าของบ้านเช่นเดียวกัน

 

Character: Johnny

เมื่อพวกเด็ก ๆ ในบึงเล่าเรื่องเกี่ยวกับจอห์นนีให้เกรอลท์ฟังเป็นครั้งแรก วิทเชอร์ก็มีสารพัดเหตุผลที่จะไม่เชื่อว่าเด็กคนนั้นมีตัวตนอยู่จริง ๆ มันยากที่จะเชื่อว่าใครสักคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายแบบนั้นได้โดยไม่ตกเป็นอาหารของดราวเนอร์หรือวอเตอร์แฮ็กไปเสียก่อน

เกรอลท์คิดว่าจอห์นนีเป็นเพื่อนในจินตนาการที่พวกเด็ก ๆ สร้างตัวตนของเขาขึ้นมาจากการต้องใช้ชีวิตเป็นเด็กกำพร้าอย่างโดดเดี่ยว แต่ประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานก็บอกเขาว่าไม่ควรละเลยเบาะแสที่อาจเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกสำรวจพื้นที่รอบ ๆ บึงเพื่อหาร่องรอยของจอห์นนี

ปรากฏว่าพวกเด็ก ๆ ไม่ได้พูดโกหก จอห์นนีนั้นมีตัวตนอยู่จนริง ๆ เขาไม่ใช่มนุษย์เด็ก หากแต่เป็นก็อดลิ่ง หนึ่งในสายพันธุ์หายากที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่รกร้างบนมหาทวีป

โชคร้ายที่เสียงของจอห์นนีหายไปในสถานการณ์ที่เขาเองก็ไม่อาจอธิบายได้ เขาจึงเหลือหนทางสื่อสารเพียงไม่กี่อย่าง และไม่สามารถตอบคำถามของเกรอลท์ได้

เมื่อเกรอลท์ช่วยให้เขาได้เสียงกลับคืนมา จอห์นนีก็พูดจนน้ำไหลไฟดับ ทำเอาตำนานที่เล่าว่าก็อดลิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขี้อายนั้นกลายเป็นเรื่องโกหกไปเลย จอห์นนียังรับปากว่าจะช่วยพูดหว่านล้อมให้ท่านยายพาเกรอลท์ไปพบกับเหล่าท่านหญิงแห่งพงไพรด้วย

ข้ารับรู้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวว่า จิตใจอันงดงามที่ตอบสนองอย่างผิดที่ผิดเวลานั้นอาจทำให้มิตรสหายต้องเดือดร้อนได้ จอห์นนีได้เรียนรู้เรื่องนี้เมื่อเขาพยายามขอร้องพวกแม่เฒ่าแทนท่านยาย แต่สิ่งเดียวที่ประสบความสำเร็จก็คือการทำให้พวกนางโกรธเคืองยิ่งขึ้น

ถ้าเกรอลท์ขับไล่ซาราห์ออกจากบ้านในโนวิกราด

เกรอลท์เคยคิดว่าเส้นทางของเขากับจอห์นนีคงไม่มาบรรจบกันอีกแล้ว แต่โชคชะตาก็มีแผนการอื่น เมื่อเขาและซีรีเดินทางมาถึงงานฉลองซับบาธของพวกแม่เฒ่า ทั้งคู่ได้พบกับจอห์นนีอีกครั้ง เขาอยู่กับซาราห์ ซึ่งเป็นก็อดลิ่งอีกตนที่เกรอลท์รู้จักระหว่างที่เขาผจญภัยในโนวิกราด

วิทเชอร์ได้รู้ว่าก็อดลิ่งทั้งสองได้รับคำเชิญจากพวกแม่เฒ่าที่พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ทั้งสองต้องมาร่วมงานฉลองซับบาธ ไม่ว่าพวกเขาจะอยากมาหรือไม่ก็ตาม ด้วยความที่ไม่อยากเอื้อระเหยอยู่เป็นเวลานาน เมื่อสบโอกาสพวกเขาจึงรีบเดินทางออกมาจากสถานที่เสื่อมทรามแห่งนั้นทันที แต่ก่อนจะออกมาจากงาน จอห์นนีก็บอกเกรอลท์และซีรีถึงวิธีที่พวกเขาจะผ่านขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งอิมเลอริธกำลังเพลิดเพลินกับงานฉลองอันชั่วร้ายอยู่

ถ้าเกรอลท์ปล่อยให้ซาราห์อยู่ในบ้านต่อไป

เกรอลท์เคยคิดว่าเส้นทางของเขากับจอห์นนีคงไม่มาบรรจบกันอีกแล้ว แต่โชคชะตาก็มีแผนการอื่น เมื่อเขาและซีรีเดินทางมาถึงงานฉลองซับบาธของพวกแม่เฒ่า ทั้งคู่ได้พบกับจอห์นนีอีกครั้ง ดูเหมือนว่าก็อดลิ่งได้รับคำเชิญจากพวกแม่เฒ่าที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ จอห์นนีต้องมาร่วมงานฉลองซับบาธ ไม่ว่าเขาจะอยากมาหรือไม่ก็ตาม ด้วยความที่ไม่อยากเอื้อระเหยอยู่เป็นเวลานาน เมื่อสบโอกาสเขาจึงรีบเดินทางออกมาจากสถานที่เสื่อมทรามแห่งนั้นทันที

แต่ก่อนจะออกมาจากงาน จอห์นนีก็บอกเกรอลท์และซีรีถึงวิธีที่พวกเขาจะผ่านขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งอิมเลอริธกำลังเพลิดเพลินกับงานฉลองอันชั่วร้ายอยู่

concept art จากหนังสือ The Witcher 3: Wild Hunt Artbook

 

The Witcher Role-Playing Game: A Witcher’s Journal

ระดับความรู้ของคนทั่วไป

หากเจ้าไม่เคยอาศัยในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่กลางป่ากลางดง เจ้าก็คงไม่เคยได้ยินเรื่องราวของก็อดลิ่งมาก่อน เดี๋ยวนี้แทบไม่มีใครเคยเจอพวกมันแล้ว ต่างจากสมัยก่อนที่มีอยู่เต็มไปหมด เคยได้ยินมาว่าเมื่อก่อนเจ้าตัวกะเปี๊ยกพวกนี้เดินทางไปทั่วแดนเหนือ พวกมันเป็นจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติหรือภูตผู้พิทักษ์บ้านเรือนทำนองนั้น เรื่องของเรื่องก็คือพวกมันชอบอยู่ใกล้ ๆ หมู่บ้านเล็กและคอยดูแลผู้คนในหมู่บ้านนั้น คอยช่วยเหลืองานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการซ่อมรองเท้าหรือซ่อมหลังคาบ้าน แต่เท่าที่ข้าได้ยินมา เมื่อพวกชาวบ้านเริ่มเปลี่ยนหมู่บ้านเป็นเมือง พวกก็อดลิ่งก็จะรู้สึกอิจฉาตาร้อนและเริ่มทำตัวเป็นศัตรูกับผู้คนแถวนั้น พวกมันจะพาฝูงหนูมาบุกยุ้งฉาง ทำลายบ้านเรือน และกินสัตว์เลี้ยงของพวกเขาด้วย!

ระดับความรู้ของวิทเชอร์

ก็อดลิ่งนั้นไม่ทำร้ายมนุษย์ เว้นแต่ว่ามันจะถูกคุกคามก่อน พวกมันแตกต่างจากสัตว์ประหลาดอื่น ๆ ตรงที่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้และรู้จักใช้เหตุผล ซึ่งควรใช้สิ่งนี้ในการรับมือกับพวกมัน

เมื่อได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้อง เช่น มอบเครื่องเซ่นที่เป็นอาหารหรือสิ่งของเครื่องมือ ซึ่งเป็นสัญญาณของการแสดงความเคารพ ก็อดลิ่งก็จะกลายเป็นสมาชิกคนขยันของหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนั้น พวกมันถนัดเรื่องดูแลสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ เนื่องจากก็อดลิ่งพูดจาภาษาสัตว์ได้ และยังคอยทำงานที่ไม่มีชาวบ้านคนไหนอยากทำอีกด้วย

โชคร้ายที่การเคารพผู้อื่นเป็นสิ่งที่หาได้ยากบนมหาทวีป เมื่อถูกคุกคามก็อดลิ่งจะกลายเป็นตัวก่อกวนขึ้นมาทันที พวกมันสามารถเสกให้อาหารเน่าเสีย ทำให้เจ้านอนฝันร้าย หรือแม้แต่บงการสัตว์ต่าง ๆ ให้มารุมโจมตีเจ้า ซึ่งพวกมันสามารถทำได้โดยไม่ต้องออกมาจากที่ซ่อนตัว

หากจำเป็นต้องขับไล่ก็อดลิ่ง สามารถทำได้โดยการเผาต้นเบอร์ด็อคและกวัดแกว่งไปรอบ ๆ บริเวณบ้านเรือนที่มันมาอยู่อาศัย การสังหารก็อดลิ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ง่ายดาย และไร้มนุษยธรรม เหตุผลเดียวที่จะฆ่าก็อดลิ่งก็คงหนีไม่พ้นการเอาลูกตาของมันมาใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงยา แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีวัตถุดิบชนิดอื่นที่สามารถใช้ทดแทนกันได้

ข้อมูลทั่วไป

  • ความสูง 1 เมตร
  • น้ำหนัก 22 กิโลกรัม
  • ถิ่นอาศัย อาศัยอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเล็ก ๆ
  • ขนาดฝูง ตัวเดียวหรืออยู่เป็นคู่

ความสามารถ

- กลิ่นแห่งป่า (smell of the wood) มอนสเตอร์และสัตว์ป่าอื่น ๆ มักไม่สนใจพวกก็อดลิ่ง เว้นแต่พวกก็อดลิ่งจะไปก่อกวนพวกมันก่อน

- เสกอาหารให้เน่าเสีย (spoil food) ก็อดลิ่งสามารถเสกให้อาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่ไม่เกิน 1 ตารางเมตรเน่าเสียได้ วิธีป้องกันคือการใช้ระเบิดไดเมอริเทียม

- สนทนาภาษาสัตว์ (speak with animals) ก็อดลิ่งสื่อสารเรื่องที่ไม่ซับซ้อนกับพวกสัตว์ได้ และสามารถออกคำสั่งง่าย ๆ ผ่านการพูดคุย สัตว์อื่น ๆ ที่ต้านทานเวทมนตร์ได้จะไม่ทำตามคำสั่งของก็อดลิ่ง และสามารถป้องกันได้โดยการใช้ระเบิดไดเมอริเทียมเช่นกัน

- สร้างฝันร้าย (weave nightmares) ก็อดลิ่งสามารถเสกให้เป้าหมายที่กำลังนอนหลับต้องติดอยู่ในฝันร้าย เป็นความฝันที่น่ากลัวและสมจริงจนแยกไม่ออก เป้าหมายจะอ่อนล้าจากการนอนหลับไม่สนิท ระเบิดไดเมอริเทียมจะทำให้มันสูญเสียความสามารถนี้ไปชั่วขณะ

จุดอ่อน

- แพ้เบอร์ด็อค เบอร์ด็อคเป็นสมุนไพรที่เป็นพิษต่อก็อดลิ่ง มันจะอยู่ในสถานะติดพิษเมื่อกินเข้าไปหรือเป็นแผลจากอาวุธที่เคลือบของเหลวจากต้นเบอร์ด็อค ก็อดลิ่งไม่สามารถทนกลิ่นสมุนไพรชนิดนี้ได้ และจะไม่เข้าใกล้จุดที่มีต้นเบอร์ด็อคในระยะ 20 เมตร

 

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.