Nightmare of the Wolf อัพเดทจากงาน WitcherCon และเว็บไซต์ทางการ
The Witcher: Nightmare of the Wolf เป็นอีกหนึ่งผลงานในจักรวาลวิทเชอร์ที่กำลังจะปรากฏสู่สายตาของแฟน ๆ ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ โดยอนิเมชัน spin-off เรื่องนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Netflix และ Studio Mir จากประเทศเกาหลี ซึ่งเน้นการผลิตอนิเมชันที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นเป็นหลัก บทภาพยนตร์เขียนโดย Beau DeMayo ที่วางรากฐานจักรวาลวิทเชอร์เวอร์ชันซีรีส์ไว้ตั้งแต่ซีซันแรก ดังนั้นเนื้อเรื่องของอนิเมชันจึงเป็นการเติมเต็มช่องว่างในอดีตที่ซีรีส์ไม่ได้เล่าเอาไว้เนื่องจากข้อจำกัดในการผลิต
ในอนิเมชันเราจะได้เห็นชีวิตในวัยหนุ่มของเวสิเมียร์ อาจารย์วิทเชอร์แห่งสำนักหมาป่าที่รับเกรอลท์มาเลี้ยงดูที่ปราสาทแคร์ มอร์เฮน ประมาณ 100 ปีก่อน เรื่องราวนี้ถูกเขียนขึ้นมาใหม่บนรากฐานของจักรวาลซีรีส์ ซึ่งผู้ชมสามารถเข้าใจได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักนิยายหรือเคยเล่นเกมมาก่อนเลย ในส่วนของงานภาพทีมงานได้ใช้เทคนิค 2D ผสมกับ 3D อย่างกลมกลืน เพื่อถ่ายทอดมิติของสภาพแวดล้อมให้ออกมาสวยงามและสมจริง แต่โดยรวมแล้วจะยังมีความเป็น 2D มากกว่า
วิดีโอประกาศวันออกอากาศ
เบื้องหลังงานสร้าง
เจาะลึกปราสาทแคร์ มอร์เฮน
ส่วนทางเว็บไซต์ witchernetflix.com ได้อัพเดทข้อมูลจากอนิเมชันเพิ่มลงไปบน interactive map ด้วยเช่นกัน ทำให้เรารู้ว่านอกจากเวสิเมียร์แล้วยังมีตัวละครหลักอีก 2 ตัวคือ เดแกลน และลูก้า โดยข้อมูลที่ถูกเพิ่มลงในเว็บไซต์เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมามีดังต่อไปนี้
เหตุการณ์: ปี 1095 กำเนิดเวสิเมียร์
เวสิเมียร์ไม่เคยจินตนาการว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้นำของเหล่าวิทเชอร์ แต่เขาถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องเป็น เมื่อบรรดาผู้คนที่เขารักล้วนแต่กำลังตกอยู่ในอันตราย
ก่อนที่เดแกลนจะพาเวสิเมียร์เข้าสู่วิถีแห่งวิทเชอร์ เขาก็เป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ ที่เกิดมาเป็นคนรับใช้ เช่นเดียวกับพ่อของเขา แต่เด็กน้อยมักจะเพ้อฝันถึงอนาคตที่ยิ่งใหญ่อยู่เสมอ เมื่อเขาได้ลองลิ้มรสชาติของการผจญภัยแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะหวนคืนไปใช้ชีวิตธรรมดา ๆ ได้อีก
เดแกลนเติบโตขึ้นบนหมู่เกาะสเกลลิเกะท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายและยากลำบาก วัยเด็กที่แสนลำเค็ญได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นนักรบผู้กล้าแกร่งดังเช่นทุกวันนี้
กาลเวลาผ่านไป เดแกลนก็กลายเป็นที่รักและนับถือของเหล่าวิทเชอร์ เหล่าเด็กชายและชายหนุ่มพวกนี้ล้วนเป็นดั่งเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา แต่ถึงกระนั้นสายใยระหว่าง “พ่อ” และ “เหล่าลูกชาย” ก็ยังขาดสะบั้นลงได้โดยง่าย
ลูก้ารู้ตัวตั้งแต่แรกว่าเขาไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตเป็นวิทเชอร์ แต่เขาก็เรียนรู้หนทางที่จะมีความสุขไปกับมัน โดยเฉพาะการได้ใช้ชีวิตเคียงข้างไปกับเหล่าพี่น้องผองเพื่อน
แม้ว่าเขาต้องเดือดร้อนเพราะความปากสว่างของตัวเองมาหลายครั้งหลายคราว แต่เขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างกับเหล่าสหายวิทเชอร์เพื่อคอยเป็นกำลังเสริมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะต้องเจอกับศัตรูหน้าไหนก็ตาม
อดีตป้อมปราการสุดแกร่ง แต่มาบัดนี้เหลือเพียงซากปรักหักพังที่สะท้อนภาพอดีตอันรุ่งเรืองเท่านั้น แคร์ มอร์เฮนตั้งอยู่ในอาณาจักรเคดเวน ชื่อของปราสาทแห่งนี้มีความหมายว่า “ป้อมปราการแห่งท้องทะเล” แต่ปัจจุบันในแถบนี้ไม่มีทะเลใด ๆ หลงเหลืออยู่อีกแล้ว แสดงให้เห็นว่ามหาทวีปนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาเช่นกัน ป้อมปราการถูกสร้างบนยอดเขาแห่งหนึ่งในเทือกเขาบลูเมาเทนส์ มีแต่ผู้ที่รู้จักเส้นทางเป็นอย่างดีเท่านั้นที่สามารถฝ่าอันตรายต่าง ๆ ขึ้นไปจนถึงป้อมปราการนี้ได้
สถานที่แห่งนี้เป็นที่พำนักของเหล่าวิทเชอร์มานานนับศตวรรษ เมื่อถึงฤดูหนาวที่พวกมอนสเตอร์พากันจำศีล วิทเชอร์ทั้งหลายก็จะกลับคืนสู่ป้อมปราการเพื่อซ่อมแซมอาวุธและชุดเกราะ รวมไปถึงปรุงยาต่าง ๆ เพื่อเก็บไว้ใช้ต่อไป เหล่าบุรุษแห่งแคร์ มอร์เฮน ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับชาวเคดเวนในละแวกนั้น เนื่องจากไม่ต้องการให้สภาวะสมดุลอันละเอียดอ่อนนี้ถูกรบกวน จนกระทั่งในฤดูหนาวหนึ่ง... แคร์ มอร์เฮนก็ถูกโจมตี
ประวัติศาสตร์: ปี 967 การสร้างวิทเชอร์คนแรก
เพื่อต่อสู้กับบรรดาสิ่งมีชีวิตสุดอันตรายที่สร้างปัญหาให้กับมหาทวีป นักเวทกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันที่แคร์ มอร์เฮน เพื่อสร้างวิทเชอร์คนแรกขึ้นมา
บางสิ่งจากยุคโบราณอาศัยอยู่ใต้เงามืดในป่าลึก
เส้นทางไปสู่แคร์ มอร์เฮนนั้นเต็มไปด้วยภยันตราย โชคดีที่เหล่าวิทเชอร์รู้จักเส้นทางนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ทุกต้น ผาหินทุกด้าน และร่องเหวลึกที่ล้อมรอบมันอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นเจ้าของป่าแห่งนี้ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ครอบครองพงไพรมักจะย้ำเตือนเหล่านักเดินทางให้จำใส่ใจเอาไว้เสมอ
ไม่มีความคิดเห็น