เกอร์นิคอรา (Gernichora)
หนองน้ำแห่งอีชกิธคืออาณาจักรของสิ่งมีชีวิตที่เป็นตัวอันตรายอย่างยิ่ง เอลฟ์เรียกมันว่า กเวิร์น อิแคร์ หรือ “ท่านหญิงโลหิต” แต่พอผ่านไปหลายชั่วคน ชาวบ้านแถวนี้ก็เรียกชื่อของมันผิดเพี้ยนไปเป็นเกอร์นิคอรา
- ไอโวแห่งเบลเฮเวน วิทเชอร์สำนักหมี
เกอร์นิคอรา เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏขึ้นบนมหาทวีปหลังเหตุการณ์ Conjunction of the Spheres แต่ด้วยลักษณะที่ไม่เข้าพวกกับสัตว์ประหลาดชนิดอื่น ๆ มันจึงถูกจัดไว้ในประเภทรีลิคท์ ไม่มีใครที่เคยเห็นเกอร์นิคอราด้วยตาตัวเองแล้วรอดชีวิตมาก่อน เรื่องราวของมันจึงคลุมเครือและเป็นเหมือนตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมา
เกอร์นิคอราปรากฏตัวครั้งแรกในเกม Thronebreaker โดยอาศัยอยู่ในบึงอีชกิธ (Ysgith แปลว่า หลุมโคลน) ทางตอนใต้ของอาณาจักรเทเมเรีย บึงนี้ขึ้นชื่อเรื่องความทุรกันดารและอันตรายจากสัตว์ประหลาดนานาชนิดที่ชุกชุมจนแม้แต่วิทเชอร์ก็ยังไม่อยากเดินทางผ่าน แต่ในปี 1267 วิทเชอร์สำนักหมีนามว่า ไอโวแห่งเบลเฮเวน (Ivo of Belhaven) ก็รับงานกำจัดเกอร์นิคอราจากกองทหารนิลฟ์การ์ดที่ต้องการเดินทัพตัดผ่านบึง
แต่ไอโวกลับพลาดท่าจนได้รับบาดเจ็บ แต่ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับราชินีมีฟแห่งอาณาจักรลีเรียและริเวีย พระองค์จำเป็นต้องเดินทัพผ่านบึงอีชกิธ และวิธีเดียวที่จะผ่านไปได้โดยสวัสดิภาพก็คือการกำจัดเจ้าอสูรร้ายที่ครอบครองบึงแห่งนี้ ไอโวจึงยอมเปิดเผยวิธีกำจัดเกอร์นิคอราที่ถือเป็นความลับประจำสำนักให้องค์ราชินีรู้
เกอร์นิคอรามีลำตัวท่อนบนคล้ายมนุษย์ เมื่อมองเผิน ๆ อาจดูคล้ายกับหญิงชราร่างโย่งที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ ส่วนท้องของมันยื่นยาวออกไปจนดูคล้ายปลิงหรือตัวทาก และมีผิวหนังเป็นปุ่มปมไปทั่วทั้งตัว เกอร์นิคอรามีวิธีการล่าเหยื่อที่แตกต่างไปจากสัตว์ประหลาดอื่น ๆ โดยการใช้เลือดของตัวเองเป็นเหยื่อล่อ โดยยอมให้ฝูงปลิงในบึงดูดเลือดของมันจนกว่าตัวจะบวมเป่ง ทำให้ปรสิตพวกนี้กลายเป็นถุงเลือดที่มันจะเอาไปแขวนไว้ตามกิ่งไม้เพื่อให้สัตว์นักล่าและอสุรกายต่าง ๆ หยิบไปกิน และใครก็ตามที่กินเลือดของเกอร์นิคอราเข้าไปก็จะตกอยู่ใต้อำนาจของมันไปด้วย ปลิงถุงเลือดพวกนี้ถูกเรียกว่า “ผลไม้แห่งอีชกิธ” (Fruit of Ysgith)
ด้วยเหตุนี้เองเกอร์นิคอราจึงสามารถควบคุมมอนสเตอร์และสัตว์ดุร้ายที่อาศัยอยู่รอบ ๆ บึงได้ การต่อสู้กับมันจึงเหมือนกับการต่อสู้กับฝูงสัตว์ประหลาดทั้งหมดในบึง จุดอ่อนเดียวของเกอร์นิคอราคือตอนที่มันปล่อยให้ฝูงปลิงดูดเลือดตัวเอง ตอนนั้นมันจะมีสภาพร่างกายอ่อนแอและตกเป็นเป้านิ่งให้โจมตี แต่กว่าจะเข้าถึงตัวของมันได้ก็ต้องฝ่ากองทัพปลิงนับร้อยไปให้ได้เสียก่อน และเมื่อเกอร์นิคอราถูกฆ่า สัตว์ประหลาดที่ถูกมันควบคุมผ่านเลือดก็จะอ่อนแอไปด้วย
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบอังเกรนบางส่วนยังบูชาเกอร์นิคอราอีกด้วย พวกเขาตั้งเสาหินโอเบลิสก์และทำพิธีสังเวยเลือดแด่ท่านหญิงโลหิต เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้พวกเขาแคล้วคลาดจากโรคภัยไข้เจ็บและภยันตรายต่าง ๆ นอกจากนี้บางตำนานก็เล่าว่าเกอร์นิเคอร์ราคือเจ้าหญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินทางไปเข้าพิธีอภิเษก โชคร้ายที่นางต้องมาติดอยู่กลางบึงและโดนฝูงปลิงดูดเลือดจนตาย แต่นางก็ฟื้นคืนชีพอีกครั้งและกลายสภาพเป็นปีศาจจากพลังลึกลับบางอย่างในบึงแห่งนี้
Gwent Reward Tree
บันทึกม้วนที่ 1: แถบอังเกรนเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่อันตรายที่สุดบนมหาทวีป… และอีชกิธก็เป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในแถบอังเกรน สถานที่ที่สามารถพบรังของของสัตว์ประหลาดอันน่าสยดสยองที่พวกชาวบ้านเรียกมันว่า “เกอร์นิคอรา”
บันทึกม้วนที่ 2: ว่ากันว่าเกอร์นิคอรานั้นดูคล้ายสตรีร่างสูงที่มีฝูงปลิงดูดเลือดเกาะอยู่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า บ้างก็ว่านางดูคล้ายกับพวกไซเรน แต่มีท่อนล่างเป็นปลิงแทนที่จะเป็นหางปลา การโต้แย้งยังคงดุเดือดไม่จบไม่สิ้น แต่อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดที่เคยเห็นนางด้วยตาของตัวเองแล้วรอดชีวิตกลับมาได้
บันทึกม้วนที่ 3: นอกจากนี้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กับหนองน้ำในอังเกรนก็ยังคุ้นเคยกับสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของนาง นั่นคือ “ผลไม้แห่งอีชกิธ” ซึ่งดูไกล ๆ เหมือนกับแอปเปิลสุกงอมสีแดงชุ่มฉ่ำผลใหญ่ที่หนักจนทำให้กิ่งโน้มลงมา… แต่เมื่อนักเดินทางที่หิวจนตาลายเอื้อมมือไปเด็ดมัน ก็พบว่าผลไม้นั้นคือปลิงตัวใหญ่ที่ดูดเลือดมาอย่างเต็มที่จนตัวของมันแทบจะแตกอยู่รอมร่อ
บันทึกม้วนที่ 4: เกอร์นิคอรานั้นแตกต่างจากพวกแวมไพร์อยู่บ้าง แทนที่จะดูดเลือดจากสิ่งมีชีวิตอื่น นางกลับมอบเลือดของตัวเองให้เป็นอาหาร นางให้ฝูงปรสิตดูดเลือดของนางและแขวนพวกมันไว้ตามกิ่งไม้ เหล่าสัตว์กระหายเลือดหรืออสุรกายที่ได้ลิ้มรสผลไม้ของนางจะถูกควบคุมจิตใจและตกเป็นทาสรับใช้โดยมิอาจขัดขืน
หีบใบที่ 1: บางตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเกอร์นิคอราเคยเป็นองค์หญิงมาก่อน พระองค์กำลังเดินทางไปเข้าพิธีอภิเษกกับพระโอรสของราชาเซดริกที่เมืองวิซิมา แต่เมื่อเหล่าข้ารับนำขบวนเสด็จหลงเข้ามาในหนองน้ำมรณะแห่งอีชกิธ องค์หญิงก็ต้องพยายามเอาตัวรอดโดยคว้ารากไม้ที่ใกล้มือที่สุดก่อนที่โคลนหนาก้นบึงจะดูดร่างของพระองค์ลงไป องค์หญิงได้แต่กรีดร้องอย่างสิ้นหวังเพราะไม่มีใครรอดชีวิตมาช่วยพระองค์ได้ ไม่นานฝูงปลิงนับร้อยก็เข้ามารุมล้อมและดูดเลือดขององค์หญิงจนแห้งเหือด แต่ด้วยพลังลึกลับแห่งบึงอีชกิธ องค์หญิงก็ถือกำเนิดใหม่ในร่างของปีศาจ
หีบใบที่ 2: อันที่จริงเกอร์นิคอราคืออสุรกายจากปรากฏการณ์ที่พหุจักรวาลเชื่อมต่อกัน ชื่อของมันเพี้ยนมาจากภาษาเอลฟ์ที่ว่า “กเวิร์น อิแคร์” (Gvaern Ichear) หรือ “ท่านหญิงโลหิต” (Bloody Mistress) พวกเอลฟ์เอนเชด์ไม่สามารถปราบเกอร์นิคอราลงได้ ทำได้เพียงแค่จำกัดพลังของนางเอาไว้ เมื่อเอลฟ์ตนสุดท้ายอพยพไปจากอังเกรนก็ไม่มีใครรู้เรื่องอสุรกายตนนี้อีกเลย ไม่นานพวกชาวบ้านที่ไม่รู้ประสีประสาในละแวกนี้ก็เริ่มตกเป็นเหยื่อของมัน...
หีบใบที่ 3: เหล่าผู้ปกครองต่างพยายามควบคุมพลังลึกลับแห่งบึงอีชกิธ เริ่มจากอาณาจักรเทเมเรีย ต่อด้วยกองทัพนิลฟ์การ์ด เนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ พวกเขาส่งกองคาราวานที่ถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนาไปยังบึงที่มีแต่ฟองอากาศเหม็นเน่า แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม ทุกคนต่างพากันล้มป่วยหรือไม่ก็เสียสติ และลงเอยด้วยการขุดสุสานหมู่ที่จะกลายเป็นแหล่งอาหารของพวกกูลในละแวกนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ของอีชกิธยังอันตรายเกินกว่าที่จะอยู่อาศัยได้ และบางที… ก็อาจดีแล้วที่มันเป็นเช่นนั้น
ไม่มีความคิดเห็น