สรุปเนื้อเรื่อง The Witcher ซีซัน 2 ตอนที่ 3 What Is Lost

Season 2

Episode 3 สิ่งที่สูญเสีย (What Is Lost)

เส้นเรื่องของเกรอลท์และซีรี

ซีรีพยายามฝึกซ้อมเพลงดาบอย่างหนักตามคำสอนของเซอร์ลาซโล อัศวินที่สังเวยชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องเธอจนหนีออกมาจากซินทราได้ เกรอลท์ต้องบอกให้เธอไปพักและกินอาหารให้อิ่มก่อน ตอนนั้นเองซีรีก็เกิดเห็นนิมิตประหลาดเป็นภาพป่าแห่งหนึ่ง แต่เธอก็ไม่ยอมเล่าให้เกรอลท์ฟังว่าเห็นอะไร

แลมเบิร์ทยังค้างคาใจเรื่องที่เกรอลท์พาเด็กสาวกลับมาด้วย และยังตอกย้ำว่าเกรอลท์เป็นฆาตกรที่ฆ่าพี่น้องของตัวเองจนโคเอนต้องห้ามปรามไม่ให้เขาปากเสียไปมากกว่านี้ เกรอลท์เดินออกจากห้องโถงและนึกถึงความหลังเมื่อตอนที่เขายังฝึกวิชากับเอสเกล เขาบ่นอุบหลังจากที่ฝึกบนเดอะคอมบ์มานาน 3 ชั่วโมง แต่ก็ยังมีแรงล้อเล่นกับเกรอลท์และแซวว่าเพื่อนรักของเขาพูดจาเหมือนเวสิเมียร์ไม่มีผิด ภาพในอดีตวันนั้นยิ่งทำให้เกรอลท์เจ็บปวดมากขึ้น

เวสิเมียร์ชำแหละซากเลเชนที่กลืนกินร่างเอสเกล จิตใจของเขาคงสงบไม่ได้หากยังไม่พบวิธีที่จะตามแกะรอยเลเชนกลายพันธุ์ตนนี้ เกรอลท์เห็นอาจารย์ไม่ยอมกินไม่ยอมนอนจึงขอร้องให้เขาปล่อยวางเรื่องนี้ไปก่อน เพราะพวกเขาควรนำร่างของเอสเกลไปทำพิธีเพื่อให้ดวงวิญญาณจากไปอย่างสงบได้แล้ว

แลมเบิร์ทเห็นซีรีฝึกใช้ดาบไม้ฟันหุ่นฟางอย่างทุลักทุเล เขายังคงไม่เชื่อว่าเด็กสาวจะสามารถผ่านการฝึกอันหฤโหดไปได้ จึงออกปากท้าทายซีรีให้ไปที่ลานฝึก อุปสรรคแรกที่เด็กสาวต้องผ่านไปให้ได้ก็คือคานทรงตัวที่มีลูกตุ้มยักษ์แกว่งสลับไปมา แน่นอนว่าทันทีที่ก้าวเท้าลงไปเธอก็โดนลูกตุ้มยักษ์กระแทกจนตกลงมา

เกรอลท์และเวสิเมียร์นำร่างของเอสเกลไปวางไว้ในถ้ำหมาป่า เวสิเมียร์ยังคงสับสนเพราะไม่เคยมีวิทเชอร์ที่ตายเพราะถูกเลเชนกลายพันธุ์ยึดร่างมาก่อน เขาเชื่อว่าถ้าหากเกรอลท์สูญเสียคนที่เป็นเหมือนลูกไปก็คงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อค้นหาว่าตัวเองทำอะไรพลาดไปบ้าง เกรอลท์เข้าใจความรู้สึกของเวสิเมียร์เพราะตอนนี้เขาเองก็ต้องทำหน้าที่พ่อเช่นกัน เมื่อฝูงหมาป่ามาเยือน ทั้งสองคนก็ออกมาจากถ้ำและปล่อยให้พวกมันกินร่างของเอสเกล

ที่ลานฝึก ซีรียังคงไม่ยอมแพ้แม้จะถูกลูกตุ้มยักษ์กระแทกจนหล่นลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พอเธอผ่านด่านแรกไปได้ ซีรีก็โดนซี่กังหันหวดใส่จนเป็นแผล เลือดของเธอหยดไปทั่วลานฝึกแต่เด็กสาวก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจแม้จะถูกแลมเบิร์ทสบประมาทก็ตาม โคเอนเห็นท่าไม่ดีจึงกลับไปตามเกรอลท์กับเวสิเมียร์ที่กลับมาถึงแคร์มอร์เฮนพอดี วิทเชอร์เกือบทั้งหมดไปยืนดูซีรีบนลานฝึก เมื่อซีรีเห็นเกรอลท์มายืนดู เธอก็มั่นใจมากขึ้นและตะลุยด่านต่าง ๆ ไปได้จนเกือบครบ แต่เธอก็พลาดตกลงมาในจังหวะสุดท้ายจนได้

เกรอลท์ช่วยทำแผลให้ซีรีและเตือนเธอไม่ให้ฝึกหนักอย่างนี้อีก เนื่องจากเธอยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ได้ผ่านการกลายพันธุ์ ร่างกายจึงไม่สามารถตอบสนองต่อยาและฟื้นสภาพจากการบาดเจ็บได้เหมือนพวกวิทเชอร์ แต่ซีรียังดื้อรั้นเพราะต้องการจะเป็นนักสู้ที่เก่งกาจ เธอไม่พอใจคำสอนของเกรอลท์จนเดินหนีออกไปจากห้องนอน ในตอนนั้นเองเกรอลท์ก็สังเกตเห็นรอยแตกตรงผนังห้อง เมื่อรื้อดูก็เห็นซากรากไม้ของเลเชนรัดผ้าสายสะพายของราชินีคาลันเธที่ซีรีพกติดตัวมาด้วย เขาจึงเริ่มสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเลเชนกลายพันธุ์ตนนี้อาจเป็นซีรี

เกรอลท์ขอให้ซีรีพยายามนึกถึงความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นจนเธอเห็นภาพนิมิตว่าตัวเองกำลังถูกดึงเข้าไปในป่า เกรอลท์จึงพาซีรีออกไปข้างนอกทันที พวกเขาได้เจอกับเลเชนแขนด้วนที่ยึดร่างเอสเกล แต่มันกลับถูกสัตว์ประหลาดอีกตัวฆ่าอย่างรวดเร็ว สัตว์ประหลาดที่ว่านี้คือมายเรียพ็อด (myriapod) กลายพันธุ์ที่มีรูปร่างเหมือนตะขาบยักษ์ เกรอลท์บอกให้ซีรีวิ่งหนีไป เจ้าตะขาบยักษ์จึงจัดการเกรอลท์ไปให้พ้นทางและรีบตามซีรีไปติด ๆ แต่เมื่อซีรีจนมุม มันกลับไม่ทำอันตรายเด็กสาวเลย เกรอลท์จึงชิงจังหวะตัดหัวมันจนขาดกระเด็น

 

เส้นเรื่องของเยนเนเฟอร์

ทิสซายอายอมรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ในที่สุด เธอจึงสลักชื่อของเยนเนเฟอร์ลงในแผ่นจารึกรายนามวีรบุรุษแห่งศึกซ็อดเดน จากนั้นจึงไปร่วมประชุมกับภราดรจอมเวทที่กำลังสอบสวนอิสเทรดด์ เนื่องจากเขาเคยไปทำงานค้นคว้าทางโบราณคดีในดินแดนของพวกนิลฟ์การ์ด แต่อิสเทรดด์ก็ยืนกรานว่าเขาไปศึกษาหินโมโนลิธเท่านั้น เขาจึงไม่รู้ความเคลื่อนไหวของกองทัพนิลฟ์การ์ดเลย สเตรกอบอร์บอกกับที่ประชุมว่าตอนนี้พวกเอลฟ์ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับนิลฟ์การ์ดแล้ว แดนเหนือจึงไม่สามารถไว้ใจเผ่าพันธุ์นี้ได้อีกต่อไป แต่ในขณะนั้นเองเยนเนเฟอร์ที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องประชุม

ทิสซายอาปลีกตัวไปคุยกับเยนเนเฟอร์ตามลำพัง เธอใช้เวลาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ กว่าจะยอมสลักชื่อศิษย์รักลงไปบนแผ่นหิน หลังจากศึกซ็อดเดนอำนาจในภราดรจอมเวทก็เริ่มเปลี่ยนไป สเตรกอบอร์และอาร์ทอเรียสสูญเสียความน่าเชื่อถือไปมากจนพวกเขาอาจตัดสินใจทำอะไรโง่ ๆ ทิสซายอาจึงต้องการให้วิลเกฟอตซ์ใช้ภาพลักษณ์ของวีรบุรุษสงครามเพื่อคานอำนาจกับสองจอมเวท เธอรู้ดีว่าเยนเนเฟอร์คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของแดนเหนือ แต่ตอนนี้เธอต้องการให้เยนเนเฟอร์ทำตัวเงียบ ๆ ไว้จนกว่าแผนการทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง

เยนเนเฟอร์ยังคงไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ แม้แต่คาถาง่าย ๆ อย่างการเสกน้ำให้อุ่นขึ้นเธอก็ยังทำไม่ได้ ซาบรินาและทริสตามมาสมทบหลังจากได้ข่าวว่าเยนเนเฟอร์กลับมาอย่างปลอดภัย ทุกคนลงว่ายน้ำในสระอย่างผ่อนคลาย เว้นแต่ทริสที่ยังไม่พร้อมเผยรอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนหน้าอกที่เธอได้มาจากศึกซ็อดเดน เยนเนเฟอร์เสนอว่าจะขอร้องให้ทิสซายอาช่วยลบรอยแผลเป็นให้ทริส แต่เธอก็ปฏิเสธและบอกเยนเนเฟอร์ว่า

"What’s lost is lost. I’m not on Tissaia’s plaque. I’m not dead. I have to find a new way forward."

สิ่งที่สูญเสียไปแล้วย่อมไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ชื่อของข้าไม่ได้อยู่บนแผ่นศิลาของทิสซายอา ข้ายังไม่ตาย ข้าก็ต้องหาเส้นทางใหม่เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า

สเตรกอบอร์ใช้เวทมนตร์สร้างภาพมายาของฟอลก้าขึ้นมาเพื่อให้เหล่าจอมเวทชายตระหนักถึงภัยที่มาจากสตรีผู้สืบเชื้อสายมาจากเอลฟ์ ฟอลก้านั้นก่อกบฏและสังหารกษัตริย์ไวรแดงค์ผู้เป็นพ่อแท้ ๆ จนเกิดสงครามกลางเมืองขยายวงไปทั่วทั้งอาณาจักรเรเดเนียและอาณาจักรเทเมเรีย เมืองเมิร์ธถูกเผาจนราบเป็นหน้ากลอง จอมเวทถูกกวาดล้าง และสเตรกอบอร์ก็เสียมือทั้งสองข้างไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาคิดว่าเยนเนเฟอร์เองก็เป็นตัวอัยตรายเพราะสืบสายเลือดมาจากเอลฟ์เหมือนกับฟอลก้า ดังนั้นเหล่าจอมเวทจึงไม่ควรปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก แม้อิสเทรดด์จะแย้งผู้เป็นอาจารย์ แต่คำพูดของเขาก็ไม่มีน้ำหนักเท่ากับคำพูดของสเตรกอบอร์

เยนเนเฟอร์เดินผ่านห้องคุมขังนักโทษและเห็นแม่ทัพคาเฮียร์ถูกจองจำจนหมดสภาพ เธอเยาะเย้ยว่าเขากำลังจะตายอย่างเปล่าประโยชน์ แต่คาเฮียร์กลับพูดเรื่องที่ฟรินจิลลาเคยบอกว่าอิจฉาเยนเนเฟอร์มาตั้งแต่สมัยเรียน แต่เขายังไม่ทันพูดจบ เยนเนเฟอร์ก็เดินหนีไปเสียก่อน เธอพบกับสเตรกอบอร์ตรงทางเดินและถูกเขาจู่โจมด้วยเวทมนตร์ทันที จอมเวทพยายามเข้าไปตรวจดูความทรงจำของเยนเนเฟอร์และทรมานเธอจากข้างในจิตใจ โชคดีที่ทิสซายอาตามมาพบเข้า เธอจึงใช้พลังผลักสเตรกอบอร์ไปให้พ้นทางและขู่ว่าเขาจะต้องอธิบายเรื่องการสอบสวนเยนเนเฟอร์โดยพละการต่อสภาด้วย

ในห้องประชุมภราดรจอมเวท ทิสซายอากล่าวโทษการกระทำของสเตรกอบอร์ แต่เขาก็ยังสามารถโน้มน้าวให้สมาชิกส่วนใหญ่ลงมติให้เยนเนเฟอร์แสดงความภักดีต่อแดนเหนือด้วยการประหารชีวิตคาเฮียร์ต่อหน้ากษัตริย์ทั้งหลาย ทิสซายอานำเรื่องนี้ไปบอกเยนเนเฟอร์ซึ่งอ่านเกมออกว่าหากเธอประหารคาเฮียร์เพื่อพิสูจน์ความภักดีตามที่สเตรกอบอร์เสนอ ก็เท่ากับว่าเธอเป็นฆาตกรเลือดเย็นที่สามารถฆ่าคนอื่นเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ทิสซายอาจึงเสนอให้เยนเนเฟอร์บอกความจริงต่อสภาว่าเธอสูญเสียพลังเวทไปแล้ว

เยนเนเฟอร์มองไม่เห็นทางออกจึงตัดสินใจจะหนีไปจากอาเรทูซา แต่อิสเทรดด์ก็เข้ามาเตือนว่ามีคนของสเตรกอบอร์อยู่เต็มไปหมด หากเธอก้าวเท้าออกไปทุกคนก็จะรู้ทันที เขายอมบอกความลับเรื่องที่ตัวเองโกหกต่อสภาว่าไม่รู้เห็นเรื่องกองทัพนิลฟ์การ์ดเพื่อให้เยนเนเฟอร์เชื่อใจเขา นอกจากนี้เขายังคอยให้ความช่วยเหลือพวกเอลฟ์ให้อพยพไปยังซินทราอย่างปลอดภัย และพรุ่งนี้เขาก็จะออกเดินทางไปที่นั่นด้วย เยนเนเฟอร์ที่สิ้นหวังเริ่มถูกโวเลธเมียร์แทรกแซงจิตใจและร้องเรียกให้ไปหามัน

พิธีเปิดอนุสรณ์สถานวีรบุรุษแห่งซ็อดเดนถูกจัดขึ้นในค่ำคืนถัดมา มีการร่ายคาถาป้องกันการใช้เวทมตร์เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมงาน เหล่าราชาและราชินีแห่งแดนเหนือมาเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมหน้า คาเฮียร์ถูกนำตัวมาไว้หน้าแท่นประหารเพื่อรอรับคมขวานจากเยนเนเฟอร์ แต่ทันใดนั้นเองเธอก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เยนเนเฟอร์ใช้ขวานตัดโซ่ปล่อยให้คาเฮียร์เป็นอิสระและวิ่งหนีออกมาจากงาน คาเฮียร์วิ่งตามมาและถามเยนเนเฟอร์ว่าทำไมถึงยอมช่วยเขา แต่เยนเนเฟอร์ตอบว่าเธอทำไปเพราะต้องหาทางช่วยเหลือตัวเองต่างหาก แล้วทั้งคู่ก็ขี่ม้าหายไปในความมืด

 

เส้นเรื่องของเหล่าเอลฟ์และนิลฟ์การ์ด

อาณาจักรต่าง ๆ ในแดนเหนือเดินหน้าต่อต้านพวกเอลฟ์อย่างเต็มที่ ทำให้พวกเขาพากันอพยพมายังซินทรา ฟิลาวันเดรลยังคงไม่ไว้ใจพวกมนุษย์เพราะเชื่อว่าพวกเขาทำดีด้วยเพราะมีจุดประสงค์แอบแฝง แต่ฟรานเชสกานั้นศรัทธาในคำพยากรณ์ของอิธลินน์อย่างสนิทใจ เธอจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ชาวเอลฟ์ได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี

นายพลเฮคในฐานะผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองซินทราเริ่มเป็นกังวลกับเอลฟ์ที่อพยพเข้าเมืองมามากถึง 4,000 ชีวิต เขาพยายามทักท้วงฟรินจิลลา แต่เธอก็ตัดบทและเชิญฟรานเชสกาเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัว ฟรานเชสกาถามตรง ๆ ว่าฟรินจิลลาต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทนจากการช่วยเหลือชาวเอลฟ์ ฟรินจิลลาจึงบอกว่าเธอต้องการพันธมิตร เนื่องจากเอลฟ์มีความรู้เกี่ยวกับมหาทวีปดียิ่งกว่ามนุษย์คนไหน ๆ ฟรานเชสกาจึงขอให้ฟรินจิลลาสัญญาว่าชาวเอลฟ์จะต้องได้ดินแดนเป็นของตัวเอง เพื่อให้ลูกหลานของเธอได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

พล็อตเรื่องที่แตกต่างระหว่างซีรีส์และนิยาย

  • ระหว่างฝึกวิชาที่แคร์มอร์เฮน ซีรีไม่เคยได้ออกไปเผชิญหน้ากับพวกสัตว์ประหลาดเลย เวสิเมียร์สอนวิธีจัดการกับพวกสัตว์ประหลาดให้ซีรีจากภาพแกะสลักและตำราเท่านั้น

  • สำนักหมาป่าไม่มีพิธีศพที่นำร่างของวิทเชอร์ไปวางไว้ให้ฝูงหมาป่ากินแบบในซีรีส์

  • สเตรกอบอร์ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก่อกบฏของฟอลก้า

  • เยนเนเฟอร์ไม่เคยถูกสอบสวนจากภราดรจอมเวท ในทางตรงกันข้าม เธอยังได้รับตำแหน่งในสภาล่าง (Council of Wizards) และยังเป็นจอมเวทหญิงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับตำแหน่งในสภาอีกด้วย

  • ในนิยายเยนเนเฟอร์ไม่เคยพบคาเฮียร์เลย

  • พวกเอลฟ์ไม่เคยอพยพไปยังอาณาจักรซินทรา แต่ใช้วิธีแฝงตัวเป็นแนวร่วมก่อความวุ่นวายให้อาณาจักรต่าง ๆ ในแดนเหนือ

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • ในรายชื่อจอมเวทผู้ล่วงลับในสมรภูมิซ็อดเดน มีชื่อของผู้อำนวยการสร้างและ executive producer รวมอยู่ในนั้นด้วย ชื่อ Baggins of Whitehill มาจากชื่อในทวิตเตอร์ของ Tomasz "Tomek" Baginski ผู้ทำหน้าที่เป็น executive producer ของซีรีส์ The Witcher ซึ่งชื่อในทวิตเตอร์ของเขาคือ Baggins (@Ba66ins) ส่วนชื่อถัดมาคือ Lourein of C’steczko Tower หรือ “ลอเรนแห่งหอคอยคุกกี้” ก็มาจากชื่อของ Lauren Hissrich ผู้อำนวยการสร้างซีรีส์เดอะวิทเชอร์ (C’steczko มาจากคำว่า ciasteczko ในภาษาโปแลนด์ แปลว่า ขนมอบจำพวกคุกกี้ พาย บิสกิต เค้ก)

  • ในห้องนอนของซีรีมีหนังหนูแขวนติดไว้ที่ผนัง ซึ่งตรงกับคำบรรยายสภาพห้องนอนของเธอในนิยายเล่ม Blood of Elves (สายเลือดแห่งเอลฟ์)



  • เรื่องที่เอสเกลกับเกรอลท์จับแมลงภู่มามัดขาไว้กับเส้นด้ายนั้นถูกกล่าวถึงในเรื่องสั้น The Last Wish (คำอธิษฐานสุดท้าย) และยังถูกกล่าวถึงในเกม The Witcher 3 อีกด้วย

  • คำพูดของเกรอลท์ที่สอนซีรีว่า “ข้ารู้จักคนที่อยากเป็นยอดนักสู้มานักต่อนัก เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกัน? ในสุสานไง” (I have known many who wanted to be great fighters in my time. Do you know where they are now? In cemeteries.) มาจากคำพูดของโคเอนในนิยาย ระหว่างที่เขาเป็นคู่ซ้อมฟันดาบให้กับซีรี

  • Antony Byrne ผู้รับบทเป็นนายพลเฮค คือผู้ที่พากย์เสียงราชาโฟลเทสท์ในเกม The Witcher 2: Assassins of Kings

 

แผนที่

อนุสรณ์สถานวีรบุรุษแห่งซ็อดเดนบนเกาะธาเนดด์ ที่มา witchernetflix.com

 

เหล่าเอลฟ์อพยพไปยังเมืองซินทรา ที่มา witchernetflix.com

 

📜 อ่าน ⏪สรุปเนื้อเรื่องซีซัน 2 ตอนที่ 2 | สรุปเนื้อเรื่องซีซัน 2 ตอนที่ 4⏩

 

 

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.