Necrophage ตัวกินซากที่ไม่ได้กินแค่ซาก
รายชื่อสัตว์ประหลาดกลุ่มรีลิคท์
- กูล ออลกูล และเกรเวียร์ | - เกรฟแฮ็ก และวอเตอร์แฮ็ก | - ดราวเนอร์ | |
- บูลวอร์ | - ฟ็อกเล็ท และฟ็อกเลทโบราณ | - รอทฟีนด์ และดีวาวเรอร์ | |
- ไวท์ และไวท์ลายจุด | - สเคอร์เวอร์ |
“เป็นการยากที่จะจินตนาการถึงสภาพของโลกเดิมที่พวกเนโครเฟจได้จากมา เจ้าพวกกองเนื้อเหม็นเน่าที่คืบคลานไปทั่วจะอยู่ตรงส่วนไหนของวัฏจักรชีวิตกันนะ? ข้าคิดว่าพวกมันคงเป็นผู้ย่อยสลายซาก เจ้าพวกนี้คอยแอบซุ่มหาเหยื่ออยู่ตามสนามรบและสุสานของเผ่าพันธุ์อื่นที่ประสบความสำเร็จมากกว่า เป็นคำอธิบายพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของพวกมันบนมหาทวีป”
- เออร์แลนด์ แห่งลาร์วิค วิทเชอร์หนึ่งในห้าคนแรกของมหาทวีป
พวกเนโครเฟจนั้นทั้งน่ารังเกียจและเป็นอันตราย การจะจำแนกพวกมันทำได้ไม่ยากเลย ส่วนใหญ่มักจะมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ตัวเปล่าเปลือย เนื้อตัวมีสีเหมือนซากศพ ร่างกายเป็นเนื้อเน่า ๆ ที่อาจมีหรือไม่มีผิวหนังปกคลุม ในกรณีของบูลวอร์ (bullvore) จะมีรยางค์เล็ก ๆ คล้ายมือที่ใช้การไม่ได้ยื่นออกมาจากลำตัวด้วย ต่อให้คิดว่าร่างที่สีเหมือนซากศพนี้คือเพื่อนบ้านขี้เมาที่กำลังพุ่งตัวเข้าใส่ แต่คงไม่มีใครพลาดกลิ่นเหม็นฉกาจฉกรรจ์ขนาดที่ทำให้หงายหลังล้มตึงได้เป็นแน่ เนโครเฟจส่วนใหญ่มีกลิ่นเหม็นเน่าโชยหึ่งและไม่เคยคิดจะอำพรางกลิ่นตัวของพวกมันเลย
เนโครเฟจอย่างดราวเนอร์ (drowner) และกูล (ghoul) ชอบโจมตีเหยื่อให้ล้มลงและเฝ้าดูฝูงของมันรุมฉีกทึ้งเนื้อหนังเครื่องในออกมากินทั้งเป็น แม้อาหารหลักของสิ่งมีชีวิตพวกนี้คือซากศพเน่า ๆ แต่พวกมันก็ยินดีจะเพิ่มเนื้อมนุษย์สด ๆ ลงในเมนูเหมือนกัน บางชนิดเลือกที่แยกชิ้นส่วนแล้วเอาไปฝังดินจนเนื้อเน่าเละและชุ่มฉ่ำไปด้วยไขกระดูกเยิ้ม ๆ แต่พวกที่นิสัยดุร้ายจะกินเนื้อมนุษย์ที่ยังอุ่น ๆ มากกว่า เนโครเฟจบางชนิดมีต่อมพิษ และส่วนใหญ่ตามเขี้ยวเล็บของมันก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจากเศษเนื้อเน่า ต่อให้เหยื่อหนีรอดจากการถูกกินไปได้ พวกเขาก็มักจะตายจากการติดเชื้ออย่างรุนแรง
หลุมศพ สุสาน และสนามรบ คือที่อยู่อาศัยของพวกกินซาก เนโครเฟจมักจะแอบซุ่มอยู่หลังป้ายหลุมศพหรือกระโจนออกมาจากหลุมตื้น ๆ เพื่อโจมตีเหยื่อ แม้เนื้อตัวของมันจะดูเน่าเละแต่รับรองได้ว่าพวกมันว่องไวกว่ามนุษย์มาก นอกจากนี้เนโครเฟจยังมีภูมิต้านทานต่อพิษและทนต่อการเสียเลือด หากใครเข้าไปในถ้ำหรือสุสานแล้วไม่ถูกโจมตี นั่นเป็นเพราะว่าพวกมันกำลังยุ่งอยู่กับการขุดเอาศพที่ฝังไว้ขึ้นมากิน และถ้าสุสานของหมู่บ้านใดถูกพวกเนโครเฟจบุกรุกเข้าไปแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ขับไล่พวกมันออกมา
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เนโครเฟจลดจำนวนลงจนพบเจอได้ยาก แต่หลังเกิดสงครามขึ้นในแดนเหนือ รวมไปถึงโรคระบาดและความอดอยากแร้นแค้นที่ตามมาติด ๆ ดินแดนแถบนี้จึงกลายเป็นสรวงสวรรค์ของพวกกินซากขึ้นมาทันที ศพที่กองพะเนินส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลดึงดูดเนโครเฟจฝูงใหญ่เข้ามาเรื่อย ๆ จนเดี๋ยวนี้ไม่มีสนามรบแห่งใดที่ปราศจากตัวกินซากพวกนี้ ซ้ำร้ายพวกบูลวอร์และเกรฟแฮ็ก (grave hag) ตัวจ่าฝูงยังพัฒนากลยุทธขึ้นมาล่อลวงเหยื่อให้เข้าไปติดกับดัก จากนั้นตัวที่เหลือก็จะมารุมล้อมและฉีกเนื้อจนเป็นชิ้น ๆ หากหมู่บ้านใดกำลังประสบปัญหานี้ การฆ่าตัวจ่าฝูงอาจทำให้พวกที่เหลือหนีไปก็เป็นได้ โดยสิ่งที่จำเป็นในการรับมือกับพวกมันคือการหาอาวุธที่เคลือบแร่เงินมาให้ได้มากที่สุด และถือคบไฟเอาไว้เพื่อป้องกันตัว
มีคนไม่น้อยที่เชื่อว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้คือดวงวิญญาณของเด็กหลงทางหรือไม่ก็เป็นพวกอาชญากรที่ถูกแขวนคอตายอะไรทำนองนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด นักวิชาการเชื่อว่าเนโครเฟจทุกชนิดปรากฏตัวขึ้นหลังจากเกิดการเชื่อมต่อกันของพหุจักรวาล (Conjunction of the Spheres) และก็เหมือนกับมอนสเตอร์อื่น ๆ ที่การกำจัดอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องพึ่งพาพวกวิทเชอร์เท่านั้น เนื่องจากพวกเขามีอาวุธครบมือและมียาสารพัดชนิดเป็นตัวช่วย
ดังนั้นเมื่อจะออกเดินทาง จงเลือกเส้นทางอย่างรอบคอบและหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง
- ศาสตราจารย์แบรนดอน หัวหน้าภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอ็อกเซนเฟิร์ต
ที่มา: คู่มือบอร์ดเกม (เล่มส่วนขยาย) A Witcher’s Journal (R.Talsorian Games, 2020)
ไม่มีความคิดเห็น