ซิกิสมุนด์ ดีคสตร้า (Sigismund Dijkstra)
ซิกิสมุนด์ ดีคสตร้า เป็นขุนนางชาวเรเดเนียที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับในรัชมัยของกษัตริย์วิซิเมียร์ที่สอง (Vizimir II) แต่ภายหลังที่กษัตริย์พระองค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์ ดีคสตร้าก็ควบตำแหน่งในสภาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (Regency Council) ร่วมกับจอมเวทหญิงฟิลิปปา ไอล์ฮาร์ท และดยุคไนเทิร์ต (Duke Nitert) เนื่องจากขณะนั้นองค์รัชทายาทอย่างเจ้าชายราโดวิดยังไม่บรรลุนิติภาวะ และราชินีเฮดวิก (Hedwig of Malleore) ก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะว่าราชการบ้านเมืองได้
ดีคสตร้านั้นเป็นคนที่เฉลียวฉลาดและมีไหวพริบเป็นเลิศ เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกเซนเฟิร์ตและเริ่มทำงานเป็นสายลับทันที ซึ่งดีคสตร้าก็มีผลงานโดดเด่นจนได้รับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับตั้งแต่อายุยังน้อย และยังเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของกษัตริย์วิซิเมียร์ที่สองเป็นอย่างมาก
หัวหน้าสายลับแห่งเรเดเนียมีผู้ช่วยส่วนตัวคือ โอริ รูเวน (โอริบาเซียส จาฟรังโก เปาโล รูเวน: Oribasius Giafranco Paolo Reuven; Ori Reuven) ทำหน้าที่จดบันทึกและร่างเอกสารต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายสายลับที่แฝงตัวอยู่ในทุกอาณาจักรตั้งแต่โคเวียร์จนถึงนิลฟ์การ์ด ไม่เพียงแต่มีหูตาเป็นสับปะรด ดีคสตร้ายังขึ้นชื่อเรื่องความเด็ดขาดและสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการแบล็คเมล์ หรือส่งตัวไปทรมานที่ป้อมปราการดราเคนบอร์ก (Drakenborg)
แม้ดีคสตร้าจะทำงานใกล้ชิดกับฟิลิปปาจนถึงขั้นเคยมีสัมพันธ์สวาทกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ลึก ๆ แล้วเขาไม่เคยไว้ใจจอมเวทหญิงผู้นี้เลย ดีคสตร้าต้องการเก็บคนที่อันตรายที่สุดไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้คอยจับตาดูทุกการเคลื่อนไหว และเธอก็เป็นแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมในยามที่เขาอยากจะสืบเรื่องราวของพวกจอมเวทขึ้นมาบ้าง
หลังจากเกิดสงครามแดนเหนือครั้งที่ 1 ดีคสตร้าก็มุ่งความสนใจไปที่องค์หญิงรัชทายาทของอาณาจักรซินทราผู้หายสาบสูญไป เขาตระหนักดีว่าเธอคือหมากตัวสำคัญที่จะมีประโยชน์ในอนาคต ดีคสตร้าจึงพยายามสืบหาตัวเธอทุกวิถีทาง
ในปี 1267 หลังจากสงครามสงบลงมาได้ระยะหนึ่ง เหล่าราชาแดนเหนือคิดแผนการเอาคืนจักรวรรดินิลฟ์การ์ด โดยจัดฉากว่าหน่วยลาดตระเวนของนิลฟ์การ์ดในโดล อังกราเปิดฉากโจมตีใส่กองทัพของเอเดิร์นและลีเรียก่อน เพื่อป้ายสีให้ดูเหมือนว่าฝ่ายนิลฟ์การ์ดเป็นฝ่ายละเมิดสนธิสัญญาสันติภาพเสียเอง ก่อนหน้าที่จะเริ่มแผนการเพียงไม่กี่วัน ดีคสตร้าก็ล่วงรู้มาว่าจักรพรรดิเอเมียร์ทรงทราบแผนนี้แล้ว และได้สั่งการให้เคลื่อนทัพมาเตรียมตลบหลังแดนเหนือ ดีคสตร้าจึงรีบส่งสาส์นไปเตือนราชาเดมาเวนด์แห่งเอเดิร์น แต่คนส่งสาส์นกลับถูกพวกสกอยาเทลฆ่าตายเสียก่อน เขาจึงไม่สามารถยับยั้งศึกที่เมืองออลเดอร์สเบิร์กเอาไว้ได้
ในเวลาไล่เลี่ยกันดีคสตร้าก็ได้ข้อมูลจากฟิลิปปา ว่ามีจอมเวทแดนเหนือกลุ่มหนึ่งแปรพักตร์ไปสนับสนุนจักรวรรดินิลฟ์การ์ด เธอและเหล่าจอมเวทที่ยังภักดีต่อแดนเหนือจึงวางแผนจะจับตัวคนทรยศในงานประชุมบนเกาะธาเนดด์ ดีคสตร้าจึงไปที่นั่นพร้อมกับฟิลิปปาและแอบเตรียมกองทหารไปด้วย เมื่อเกิดการปะทะของเหล่าจอมเวท ดีคสตร้าจึงนำกองกำลังเข้าร่วมสมทบ จนกระทั่งได้เจอเกรอลท์อีกครั้งที่ด้านนอกปราสาทการ์สแตง เขาเกลี้ยกล่อมให้เกรอลท์ร่วมมือด้วยเพื่อพาตัวซีรีหนีไปยังเมืองเทรทอกอร์ แต่วิทเชอร์ตอบข้อเสนอนี้ด้วยการซัดเขาจนน่วมและหักข้อเท้าของหัวหน้าสายลับไปข้างหนึ่ง
ดีคสตร้าเดินไม่ได้อยู่หลายสัปดาห์ เขาต้องขอร้องให้ฟิลิปปาใช้เวทมนตร์ช่วยรักษาให้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังปวดจนเขาต้องแช่เท้าในน้ำอุ่นวันละหลายครั้ง ดีคสตร้าเริ่มสืบหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารกษัตริย์วิซิเมียร์ที่สอง ไปพร้อม ๆ กับการตามหาตัวจอมเวทวิลเกฟอตซ์ จนพบว่าเขาแอบทำการทดลองวิปริตและทิ้งซากศพของหญิงตั้งครรภ์จำนวนมากไว้ที่ปราสาทร้างแห่งหนึ่งก่อนจะหายเข้ากลีบเมฆไป
เมื่อจักรวรรดินิลฟ์การ์ดเดินหน้ารุกรานแดนเหนืออย่างเต็มกำลัง ดีคสตร้าจึงต้องบากหน้าไปยังอาณาจักรโคเวียร์เพื่อขอกู้ยืมเงินมาสร้างกองทัพ แต่ราชาเอสเทอราด (Esterad Thyssen) ยืนยันว่าอาณาจักรของพระองค์นั้นวางตัวเป็นกลาง และไม่อาจฝ่าฝืนสนธิสัญญาที่ทำไว้กับจักรวรรดินิลฟ์การ์ดซึ่งระบุว่าโคเวียร์จะไม่ให้การสนับสนุนใด ๆ ต่อศัตรูของจักรวรรดิ แต่สุดท้ายราชินีซูเลย์ก้า (Zuleyka) แห่งโคเวียร์ก็หาทางช่วยเหลือดีคสตร้าแบบลับ ๆ จนได้
ในเดือนมกราคมปี 1268 ดีคสตร้าได้รับจดหมายจากเกรอลท์ซึ่งระบุว่าวิลเกฟอตซ์กบดานอยู่ที่ปราสาทสติกกาในอาณาจักรเอ็บบิง เขาจึงส่งต่อข้อมูลนี้ไปให้จักรพรรดิเอเมียร์ ซึ่งพระองค์ก็ตอบแทนดีคสตร้าด้วยการเผยข้อมูลว่าใครอยู่เบื้องหลังการลอบปลงพระชนม์กษัตริย์วิซิเมียร์ที่สอง ดีคสตร้าจึงเริ่มวางแผนเปิดโปงคนร้าย และนั่นก็ทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายจนต้องหนีออกจากเรเดเนียไปในที่สุด
ฉายาและชื่ออื่น ๆ
ดีคสตร้าใช้ชื่อปลอมว่า “ซิกิ รูเวน” โดยคำว่า “Sigi” มาจากชื่อ Sigismund ของตัวเขาเอง ส่วนนามสกุล “รูเวน” ก็เอามาจากนามสกุลผู้ช่วยของเขา
Original Novel (Blood of Elves)
"ดีคสตร้า หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของกษัตริย์วิซิเมียร์แห่งเรเดเนียนั้นดูไม่เหมือนสายลับเลยสักนิด ลักษณะภายนอกของเขาห่างไกลจากพวกสายลับทั่ว ๆ ไปที่มักตัวเล็ก ผอมบาง ดูน่ารังเกียจเหมือนพวกหนู และคอยใช้สายตายเฉียบแหลมจ้องมองอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ จากภายใต้หมวกฮู้ดสีดำตลอดเวลา เท่าที่แดนดีไลออนรู้จัก ดีคสตร้าผู้นี้ไม่เคยสวมฮู้ดและยังชอบใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสอีกด้วย เขาสูงเกือบเจ็ดฟุตและอาจหนักน้อยกว่าสองควินทาล*เพียงนิดหน่อย ยามที่เขายกแขนขึ้นมากอดอก ซึ่งเป็นท่าทางที่เขาชอบทำเสมอ มันช่างดูคล้ายกับวาฬสองตัวกำลังนอนเกยร่างลงบนวาฬอีกตัวหนึ่ง รูปร่าง สีผมและผิวพรรณของเขาดูไม่ต่างอะไรกับหมูที่เพิ่งถูกขัดสีฉวีวรรณมาใหม่ ๆ แดนดีไลออนรู้จักคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีรูปร่างหน้าตาชวนให้เข้าใจผิดดังเช่นกรณีของดีคสตร้า เพราะลักษณะที่อ้วนฉุเหมือนหมูยักษ์มักชวนให้คิดว่าเขาเป็นคนขี้เกียจ ซึมกะทือ และเฉื่อยชา รวมไปถึงเป็นคนใจดีที่ไม่ค่อยจะฉลาดนัก ส่วนเรื่องอิทธิพลของเขานั้น มีคำพูดหนึ่งที่มักจะพูดกันระหว่างการประชุมในท้องพระโรงของกษัตริย์วิซิเมียร์ที่ว่า แม้จะเป็นเวลากลางวันแสก ๆ แต่หากดีคสตร้ากล่าวว่าเขามองเห็นแต่ความมืดมิด ก็ถึงเวลาที่ต้องเริ่มวิตกกับชะตากรรมของดวงอาทิตย์แล้ว"
หมายเหตุ: ควินทาล (quintal) เป็นหน่วยวัดน้ำหนัก โดย 1 ควินทาลจะหนักประมาณ 48.95 กิโลกรัม นั่นหมายความว่าดีคสตร้านั้นสูงเกือบสองเมตรและมีน้ำหนักราว ๆ 97-98 กิโลกรัม
Gwent (Syndicate Leaders Reward Tree)
หีบใบที่ 1: ซิกิสมุนด์ ดีคสตร้า คือบุรุษผู้มีสติปัญญาฉลากหลักแหลมและเปี่ยมด้วยความทะเยอทะยาน ผู้ไต่เต้าจากพื้นเพของคนธรรมดาไปสู่การเป็นหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับแห่งเรเดียเนีย ทว่าเขาเองก็ถูกหักหลังจนต้องยอมปล่อยมือไปจากสภาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และหนีออกจากอาณาจักรไป อย่างไรก็ตามความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ได้เปิดประตูอีกบานหนึ่งให้กับคนที่ปราดเปรื่องและกล้าได้กล้าเสียแบบเขา เมื่อมองเห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอาชญากรรมใต้ดินแห่งเมืองโนวิกราด เขาจึงใช้ชื่อซิกิ รูเวน และมุ่งมั่นสร้างฐานอำนาจขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และเขายังเป็นผู้เสนอให้เห็นถึงจุดอ่อนทางจริยธรรมของมหานครอิสระ ด้วยข้อตกลงที่เขาจะใช้แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองได้ทุกเมื่อที่มีโอกาส
The Witcher 3 Journal Entry
ภายใต้หน้ากากของซิกิ รูเวนนั้น แท้จริงแล้วหาใช่ใครอื่นนอกจาก ซิกิสมุนด์ ดีคสตร้า อดีตหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับแห่งเรเดเนีย และยังเป็นบุรุษที่เกรอลท์ต้องรับมืออยู่หลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา
เขาไม่เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์ราโดวิด และก็ไม่มีใครได้ยินข่าวคราวของเขามานานหลายปี จนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาได้สินใจโผล่ออกมาจากเงามืดแล้ว แต่แทนที่จะกลับสู่สนามการเมืองการปกครองระดับสูงที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เขากลับดำดิ่งลงไปในโลกใต้ดินแห่งอาชญากรรมแทน และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วกับการเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำแก๊ง
ถึงเขาจะไม่ได้แสดงออก แต่จริง ๆ แล้วดีคสตร้าก็ยอมรับนับถือเกรอลท์ในแบบของเขาเอง แม้ว่าเขาต้องเจ็บตัวในการพบกันครั้งล่าสุด ที่ทั้งสองคนต่างยืนขวางทางอีกฝ่ายระหว่างเหตุการณ์กบฏบนเกาะธาเนดด์ แต่เกรอลท์ก็จัดการผ่าทางตันโดยการหักขาของดีคสตร้า
เรื่องราวชีวิตของสายลับผู้นี้สามารถนำไปเล่าเป็นนิทานการผจญภัยที่สุดแสนเร้าใจได้เลย ในฐานะเหยื่อคนหนึ่งที่ถูกฟิลิปปาใช้เล่ห์เหลี่ยมจัดการจนต้องลี้ภัยออกจากเรเดเนียแบบสายฟ้าแลบ ไม่เช่นนั้นก็ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกมือสังหาร ในตอนนั้นเขาตั้งใจจะเดินทางไปยังดินแดนอันไกลโพ้น แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจหวนคืนกลับมายังมหานครอิสระแห่งโนวิกราด
เขารู้ดีว่าเกรอลท์มีความสามารถเหนือมนุษย์ทั่วไป ดีคสตร้าจึงขอให้เกรอลท์ช่วยตามหาสมบัติของเขาที่ถูกขโมยไป แม้เกรอลท์จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นฝีมือของใคร แต่เขาก็ไม่คิดจะแพร่งพรายเรื่องนี้และเริ่มทำการสืบสวนราวกับว่ามันเป็นคดีที่เต็มไปด้วยปริศนา
แม้เกรอลท์จะปิดปากเรื่องที่ข้า (หมายถึงแดนดีไลออนซึ่งเป็นผู้เขียนบันทึกเรื่องราว) เป็นคนวางแผนปล้นสมบัติ แต่ดีคสตร้าก็จมูกไวพอจนรู้ว่าเกรอลท์เล่นไม่ซื่อ และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาเกลียดการถูกปั่นหัวมากแค่ไหน
ถึงดีคสตร้าจะช่วยเหลือให้พวกนักเวทหลบหนีสำเร็จ แต่เขาไม่ได้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ถึงกระนั้นทริสก็ยังซาบซึ้งในน้ำใจของเขาอยู่ดี เพราะความช่วยเหลือของเขาเป็นส่วนสำคัญให้แผนการอพยพสำเร็จไปได้ด้วยดี
ดีคสตร้าไม่เห็นด้วยกับการกวาดล้างพวกนักเวทให้หมดสิ้นไปจากเมือง เว้นเสียแต่ว่าจอมเวทคนนั้นจะเป็นฟิลิปปา ไอล์ฮาร์ท เขาไม่อาจให้อภัยเพื่อนผู้ทรยศหักหลังและยังพยายามลงมือสังหารเขาอีกด้วย น่าเสียดายที่เกรอลท์จำเป็นต้องช่วยเหลือให้ฟิลิปปามีชีวิตอยู่ต่อไป และเขาก็รู้วิธีที่จะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
แม้ดีคสตร้าอยากล้างแค้นจนใจจะขาด แต่เขาก็เต็มใจพับแผนการของตนเองเข้าลิ้นชัก เพื่อแลกเปลี่ยนกับข้อมูลอันล้ำค่า
ใครที่คิดว่าว่าดีคสตร้าได้ตัดขาดจากโลกของการเมืองและแผนลับแผนลวงไปแล้ว ก็ต้องถือว่าคนผู้นั้นคิดผิดอย่างมหันต์ แผนการอันยิ่งใหญ่ของเขาคือการกอบกู้บ้านเมืองและปลดปล่อยเรเดเนียให้พ้นจากการปกครองของคนบ้า ซึ่งแผนนี้คือการลอบสังหารกษัตริย์ราโดวิด
ถ้าเกรอลท์ร่วมมือในแผนสังหารราโดวิด และสังหารดีคสตร้าไปด้วย
ในฐานะที่ข้าเคยเข้าร่วมคณะล่ามังกรอยู่ครั้งหนึ่ง หลังจากมังกรถูกสังหารลงก็จะมีอีกหลายหัวที่กระเด็นหลุดจากบ่า ทุ่งหญ้าจะแหลกลาญและแคมป์ไฟจะถูกจุดขึ้น แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องแบ่งสมบัติ พวกนักล่ามังกรก็จะหันมาสังหารมนุษย์ด้วยกันเสียเอง เช่นเดียวกับการลอบสังหารราโดวิดที่ดีคสตร้าคิดจะตลบหลังสหายร่วมอุดมการณ์เพื่อกำจัดเวอร์นอน โร้ชและธาเลอร์ไปให้พ้นทาง
ดีคสตร้าเชื่อว่าวิทเชอร์อย่างเกรอลท์จะวางตัวเป็นกลางในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เขาคาดคะเนผิดและราคาที่ต้องจ่ายก็คือชีวิตของเขาเอง
ถ้าเกรอลท์ร่วมมือในแผนสังหารราโดวิด แต่ไม่ได้สังหารดีคสตร้า
ในฐานะที่ข้าเคยเข้าร่วมคณะล่ามังกรอยู่ครั้งหนึ่ง หลังจากมังกรถูกสังหารลงก็จะมีอีกหลายหัวที่กระเด็นหลุดจากบ่า ทุ่งหญ้าจะแหลกลาญและแคมป์ไฟจะถูกจุดขึ้น แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องแบ่งสมบัติ พวกนักล่ามังกรก็จะหันมาสังหารมนุษย์ด้วยกันเสียเอง เช่นเดียวกับการลอบสังหารราโดวิดที่ดีคสตร้าคิดจะตลบหลังสหายร่วมอุดมการณ์ที่คิดจะเจรจาต่อรองกับพวกนิลฟ์การ์ด
ปฏิบัติการณ์ของอดีตสายลับบรรลุเป้าหมายในที่สุด ส่งผลให้ตัวเขาเองอยู่ในตำแหน่งที่สามารถบัญชาการสงครามต่อต้านพวกนิลฟ์การ์ดต่อไปได้
ไม่มีความคิดเห็น