เลเชน และสปริกกัน (Leshen and Spriggan)
เลเชน หรือ เลชี่ (Leszy / Leszi / Leshy / Leshii) เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทรีลิคท์ที่มีสติปัญญาพอ ๆ กับมนุษย์ แต่พวกมันไม่สามารถสื่อสารด้วยการพูดได้ เลเชนมีนิสัยดุร้ายและหวงอาณาเขตยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด พวกมันมักทำรังอยู่ในป่าโบราณที่รกทึบและสังหารทุกคนที่ล่วงล้ำเข้าไปในผืนป่าของมัน ด้วยเหตุนี้มันจึงทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ป่าไปโดยปริยาย
เลเชนมีสายพันธุ์ย่อยที่เรียกว่า “สปริกกัน” ที่ส่วนศีรษะของมันดูคล้ายกับชายชราหน้าตาน่าเกลียด ในขณะที่ส่วนศีรษะของเลเชนมักปรากฏเป็นกะโหลกกวางเก่า ๆ ที่มีกิ่งเขางดงาม แม้ทั้งสองสายพันธุ์จะมีเวทมนตร์ควบคุมพืชและสัตว์ป่าได้ แต่ดูเหมือนว่าสปริกกันจะเลือกควบคุมเฉพาะต้นไม้เท่านั้น นอกจากนี้สปริกกันยังสามารถหายตัวและโผล่ออกมาโจมตีได้รวดเร็วกว่าเลเชนมาก ๆ
เลเชน (Leshen)
The Witcher 3: Wild Hunt
Bestiary: Leshen (Polish Version)
เราไม่เคยเข้าไปล่าสัตว์ในป่านั้นหรอก ไม่เคยเข้าไปเลย... ต่อให้คนทั้งหมู่บ้านจะอดตายก็ตาม
– มัลลิเวอร์ ผู้นำของหมู่บ้านฮอชเบิร์กในเขตเอเดิร์นตอนล่าง
เลเชนมักอาศัยอยู่ตามผืนป่าดงดิบโบราณ มันเป็นสิ่งมีชีวิตดุร้ายที่หวงแหนอาณาเขต ออกล่าด้วยการซุ่มโจมตีอย่างเงียบเชียบและใช้เล่ห์เหลี่ยมเช่นเดียวกับพวกพ้องของมัน เลเชนสามารถใช้เวทมนตร์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดควบคุมพืชและสัตว์ที่อยู่ในอาณาเขตของมันได้ การสะกดรอยเลเชนจึงเป็นเรื่องยากและการเข้าใกล้มันในระยะที่พอจะโจมตีได้ก็ยากยิ่งกว่า เลเชนที่มีชีวิตมานานจนได้ชื่อว่าเป็น “เลเชนโบราณ” จะยิ่งมีทักษะและกลยุทธแพรวพราวจนทำให้มันเป็นคู่ต่อสู้ที่อันตรายมาก
ในบางภูมิภาคของโลกมีลัทธิที่เกิดมาจากความเชื่อเรื่องเลเชน พวกชาวบ้านมักจะเซ่นสังเวยสัตว์เล็ก ๆ อย่างนกหรือกระต่าย แต่บางครั้งพวกเขาก็สังเวยด้วยเลือดของมนุษย์ มีหลายตำนานที่เล่าว่าเลเชนผู้เมตตาจะคอยช่วยเหลือเหล่านายพรานให้พบสัตว์ที่ต้องการ นำทางพวกเขาให้เดินทางในป่าได้อย่างปลอดภัย หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือชาวบ้านให้รอดพ้นจากพวกโจรผู้ร้าย น่าเสียดายที่ตำนานเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนความจริงใด ๆ เลย ความจริงที่ว่าพวกเลเชนเห็นมนุษย์เป็นเพียงแหล่งพลังงานอย่างหนึ่งเท่านั้น เป็นแหล่งพลังงานสำหรับปรนเปรอความกระหายของมันที่มีแต่จะทวีคูณยิ่งขึ้น
เลเชนบางตนสามารถสร้างโทเท็มเวทมนตร์ที่จะทำให้มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรทำลายมันทิ้งก่อนการต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังรู้วิธีรักษาความเป็นอมตะเอาไว้ มันจะทำร้ายคนที่หลงเข้าไปในป่าพร้อมกับร่ายมนต์ดำใส่เป็นการทำเครื่องหมายเอาไว้ ตราบใดที่คนผู้นั้นยังไม่ออกจากอาณาเขต เลเชนก็จะคืนชีพได้ทุกครั้งที่มันตายลง วิธีจัดการเรื่องนี้คือต้องขับไล่คนที่ถูกทำเครื่องหมายออกไปให้พ้นจากอาณาเขตของมันหรือหาวิธีลบล้างมนต์ดำ หรือไม่ก็ต้องฆ่าเขาทิ้ง
เลเชนไม่ได้ใช้กรงเล็บต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่มันยังมีพวกพ้องมากมาย เช่น ฝูงหมาป่าที่คอยตอบรับทุกครั้งที่มันเรียก หรือแม้แต่ฝูงกาที่นอกจากจะคอยรบกวนคู่ต่อสู้ให้แล้วยังช่วยโจมตีได้อีกด้วย เลเชนยังสามารถควบคุมต้นไม้เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการต่อสู้ แต่ถึงแม้มันจะมีข้อได้เปรียบมากมาย เลเชนกลับมีจุดอ่อนที่สามารถใช้จัดการมันได้อย่างง่ายดาย นั่นคือ...เปลวไฟ
จุดอ่อน: น้ำมันรีลิคท์ / ระเบิดไดเมอริเทียม / คาถาอิกนี
จุดแข็ง: ต้านทานต่อคาถาแอ็กซี
Kernun (Contract: Lord of the Wood)
เราบอกเจ้างั่งนั่นไปแล้วว่ามีบางอย่างซุ่มอยู่ในป่า แต่เขาไม่ยอมเชื่อ…
– หลุยส์ คลอสเตอร์ คนตัดไม้
“โนวิกราด” มหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นอู่อารยธรรมอันศิวิไลซ์ เมืองนี้คือหลักฐานชิ้นสำคัญ... หรืออย่างน้อยก็เป็นเหตุผลที่พอโน้มน้าวให้เชื่อว่ามนุษย์สามารถควบคุมธรรมชาติได้ แต่นอกกำแพงเมืองนั้นก็ยังคงเป็นผืนป่า และใครก็ตามที่เหยีบย่างเข้าไปก็จะพบว่าเขาไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ ของการเป็นมนุษย์คอยคุ้มหัวเหมือนตอนอยู่ในกำแพงอีกต่อไป
หนึ่งในอสุรกายทั้งปวงที่ทำรังอยู่ในป่าคือเลเชนเก่าแก่ที่มีฤทธิ์เดชไม่น้อย มันสังหารทุกคนที่ล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตของมันอย่างโหดร้ายตามสัญชาตญาณ ฉีกคนเหล่านั้นออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยกรงเล็บคมกริบดังใบมีด พันธนาการเหยื่อด้วยรากไม้ที่พุ่งพรวดขึ้นมาจากพื้นดิน หรือไม่ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นอาหารของฝูงหมาป่าที่หิวโหย ถ้าหากว่ามันทนทานต่อไฟจากคาถาอิกนี หรือถ้าวิทเชอร์ไม่มีเกราะป้องกันอย่างคาถาเคว็น พวกเขาก็คงไม่สามารถฆ่าเลเชนได้
เกรอลท์แห่งริเวียสามารถจบชีวิตเลเชนตนนี้หลังการต่อสู้อันยาวนานและเหน็ดเหนื่อย เมื่อเจ้าอสุรกายถูกกำจัด พวกคนตัดไม้ก็กลับไปทำงานได้อีกครั้ง และหมู่แมกไม้ก็ตกอยู่ใต้คมขวานดังเดิม บางทีป่าทั้งผืนอาจจะหายไปพร้อม ๆ กับอสุรกายที่เคยอาศัยอยู่ด้วย
Woodland Spirit (In the Heart of the Woods)
สเวน… เราไปก้าวล้วงเขาก่อนนะ วิญญาณแห่งพงไพรจึงตามมาล้างแค้นเรา เตือนเราให้อยู่ห่าง ๆ เส้นทางโบราณเหล่านั้น
– แฮรอลด์แห่งเฟเยอร์ลุนด์
อสุรกายบางตนก็มีอทธิฤทธิ์มากพอที่พวกชาวบ้านจะบูชาให้เป็นเทพเจ้า ดังเลเชนตนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าละแวกหมู่บ้านเฟเยอร์ลุนด์บนเกาะสเกลลิเกะ ผู้นำหมู่บ้านเชื่ออย่างสนิทใจว่ามันคอยทำหน้าที่ปกปักรักษาพวกชาวบ้านให้พ้นจากศัตรูทั้งปวง และยังช่วยสอนวิธีล่าสัตว์ให้พวกนายพรานอีกด้วย
วิทเชอร์รู้สึกคลางแคลงใจอย่างมาก เพราะเลเชนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัวเองเท่านั้น แน่นอนว่าเจ้าอสุรกายโบราณที่อาศัยอยู่ในป่ารอบ ๆ หมู่บ้านเฟเยอร์ลุนด์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
เกรอลท์รู้ดีว่าการจะปลดปล่อยพวกชาวบ้านจากเงื้อมมือของสิ่งที่พวกเขาศรัทธานั้นไม่ใช่งานง่าย ๆ เลยถ้าเขาคิดจะทำขึ้นมาจริง ๆ เลเชนที่เรียกขานกันว่า “วิญญาณแห่งพงไพร” นั้นมีทักษะและพลังมหาศาล มันได้ทำเครื่องหมายลงบนตัวชาวบ้านคนหนึ่งที่อาศัยในหมู่บ้านเฟเยอร์ลุนด์ และตราบใดที่คนผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ในอาณาเขตของมัน แม้จะถูกสังหารลงแต่เลเชนก็จะกลับมาเกิดใหม่ใกล้ ๆ รังของมัน
แต่ต่อให้กำจัดคนที่ถูกทำเครื่องหมายออกไปแล้ว การสังหารเลเชนก็ยังคงเป็นงานยากอยู่ดี มันสามารถบงการทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ในป่า ไม่ว่าจะเป็นฝูงหมาป่า ฝูงอีกา หรือแม้แต่ต้นไม้ เพื่อใช้พวกมันเป็นกำลังเสริม ยังดีที่จุดอ่อนของมันคือเปลวไฟ และคาถาอิกนีก็มีไว้เพื่อการนี้
ถ้าเกรอลท์ไม่สังหารเลเชน
ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัวระหว่งเกรอลท์กับวิญญาณแห่งพงไพร แม้เกรอลท์จะมั่นใจว่าเลเชนตนนี้ไม่ได้มีคุณูปการมากมายตามที่ผู้นำหมู่บ้านเชื่อ แต่การสังหารมันน่าจะทำให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์แน่นอน
ถ้าเกรอลท์สังหารเลเชน
วิทเชอร์จัดการสังหารเลเชนลง เพื่อป้องกันไม่ให้พวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นถูกฆ่าตายอีก แต่นั่นไม่ได้แปลว่าปัญหายุ่งยากในหมู่บ้านเฟเยอร์ลุนด์จะจบลง...
ไพ่ Woodland Spirit จากเกม Gwent ศิลปิน Marek Madej (ภาพจาก gwent.one) |
Gwent Reward Tree: Woodland Spirit
บันทึกม้วนที่ 1: เหล่านายพรานผู้มากประสบการณ์อาจหลบเร้นจากสิ่งมีชีวิตในป่าที่อันตรายที่สุดได้ ไม่ว่าจะเป็นหมาป่า เน็กเกอร์ หรือแม้กระทั่งเอคิมมารา แต่ไม่มีใครที่รอดพ้นไปจากเลเชนได้
บันทึกม้วนที่ 2: เป็นไปไม่ได้ที่ใครสักคนจะอำพรางร่องรอยการเดินป่าเพื่อตบตาเลเชน ไม่มีใครหลอกพวกมันได้ ในชั่วขณะหนึ่งฝืนป่าอาจจะยังดูว่างเปล่า… แต่แล้วจู่ ๆ ก็จะมีสายตาคู่หนึ่งจดจ้องออกมาจากความมืด สายตาแข็งทื่อจากเบ้าตากลวงโบ๋ที่มีเปลวเพลิงสีฟ้าสุดสะพรึงลุกโชนอยู่ในนั้น
บันทึกม้วนที่ 3: แม้ว่าพวกมันจะมีกรงเล็บยาวสามฟุตและคมกริบยิ่งกว่าดาบสิฮิลแห่งเทือกเขามาฮาคาม แต่นั่นก็ยังไม่ใช่อาวุธที่น่ากลัวที่สุด แต่เป็นฝืนป่าต่างหาก มันคืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของเลเชน เพราะพวกมันสามารถบงการต้นไม้และสรรพสัตว์ทั้งปวงได้ตามปรารถนา
บันทึกม้วนที่ 4: รากไม้ใต้เท้าของเจ้าจะงอกทะลุขึ้นมาจากพื้นดินและพันเกี่ยวท่อนขาเอาไว้ หมอกหนาจะปกคลุมอย่างฉับพลันเพื่ออำพรางฝูงหมาป่าที่ตามกลิ่นของเจ้ามา ยากนักที่ใครจะรอดชีวิตจากการจู่โจมเช่นนี้ และยากยิ่งกว่าที่จะคุมสติไม่ให้กระเจิดกระเจิงกับสถานการณ์ตรงหน้า
หีบใบที่ 1: ในบางภูมิภาคของโลกมีลัทธิที่เกิดมาจากความเชื่อเรื่องเลเชน พวกชาวบ้านมักจะเซ่นสังเวยสัตว์เล็ก ๆ อย่างนกหรือกระต่าย แต่บางครั้งพวกเขาก็สังเวยด้วยเลือดของมนุษย์ มีหลายตำนานที่เล่าว่าเลเชนผู้เมตตาจะคอยช่วยเหลือเหล่านายพรานให้พบสัตว์ที่ต้องการ นำทางพวกเขาให้เดินทางในป่าได้อย่างปลอดภัย หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือชาวบ้านให้รอดพ้นจากพวกโจรผู้ร้าย น่าเสียดายที่ตำนานเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนความจริงใด ๆ เลย ความจริงที่ว่าพวกเลเชนเห็นมนุษย์เป็นเพียงแหล่งพลังงานอย่างหนึ่งเท่านั้น เป็นแหล่งพลังงานสำหรับปรนเปรอความกระหายของมันที่มีแต่จะทวีคูณยิ่งขึ้น
หีบใบที่ 2: เป็นเวลาเนิ่นนานที่พวกนักวิชาการต่างโต้เถียงกันถึงตัวตนที่แท้จริงของเลเชน แม้ว่าสารานุกรมส่วนใหญ่จะจัดมันไว้ในประเภทรีลิคท์ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังคงตั้งคำถามกับการจัดประเภทของมัน บางคนสันนิษฐานว่ามันเกิดมาจากมนต์ดำซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมคืนชีพคนตาย (necromancy) บางคนก็คิดว่ามันเป็นปีศาจจากต่างมิติเหมือนพวกจินน์ (djinn) หรือดร็อก (draug) การชันสูตรซากศพของมันจะช่วยขจัดข้อสงสัยได้อย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงร่างของมันจะสลายไปทันทีที่ตายลง และสิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็มีแต่กะโหลกกวางเก่า ๆ เหลือง ๆ เท่านั้น
หีบใบที่ 3: สิ่งที่ควรทำเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเลเชนน่ะหรือ? หากเจ้าเป็นวิทเชอร์ผู้มากประสบการณ์ก็คงพอจะต่อสู้กับมันได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ปกติแล้วสัญชาตญาณมักจะบอกให้เราวิ่งหนี แต่โชคร้ายที่เลเชนสามารถเคลื่อนที่ผ่านป่าทึบได้เร็วพอ ๆ กับความเร็วของสายลม การจะหนีให้พ้นจากมันจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย แล้วยังมีทางเลือกอื่นอีกหรือ? พวกนายพราน ดรูอิด เอลฟ์ และนักเดินทางทั้งหลายที่เหยียบย่างเข้ามาในเขตของเลเชนจะรีบคุกเข่าลง ชักมีดออกมากรีดข้อมือตัวเองแล้วหลับตาลง หากโชคชะตายังปรานีอยู่บ้าง เลเชนก็จะพึงพอใจกับเลือดที่ถูกสังเวยให้และยอมปล่อยพวกเขาไป… บางทีพวกเขาอาจรอดตาย ถ้าบาดแผลนั้นไม่ลึกมากจนรักษาไม่ทันการ
Bestiary (The Witcher Role-Playing Game: A Witcher’s Journal)
ระดับความรู้ของคนทั่วไป
ข้าเคยเห็นเลเชนแค่เพียงครั้งเดียว ตอนนั้นข้าไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไรเลยด้วยซ้ำ! ตอนนั้นข้าแล่นเกวียนผ่านเข้าไปในป่าแล้วก็ได้ยินเสียงหึ่ง ๆ พอมองเข้าไปก็เห็นร่างใหญ่ยักษ์ยืนอยู่หลังต้นไม้ ว่ากันว่าเลเชนสามารถทำให้ผืนป่ามีชีวิต พวกมันเกลียดเหล่านายพราน คนตัดไม้ และพวกหาของป่ามากกว่าสิ่งใดทั้งสิ้น หากเจ้าเข้าไปในป่าของมันก็จะถูกรากไม้ทิ่มแทงและโดนจับไปทำเป็นโทเท็มเวทมนตร์อะไรสักอย่างนี่แหละ ถ้าคิดจะสู้กับพวกเลเชนเจ้าก็ต้องใช้ไฟเป็นอาวุธ เพราะร่างของมันเป็นกิ่งไม้ที่ติดไฟได้ง่ายมาก แต่อย่างเพิ่งดีใจไปล่ะ เลเชนน่ะเป็นอมตะ หากไม่เผาป่าให้เหี้ยนเจ้าก็ฆ่ามันไม่ได้หรอก
ระดับความรู้ของวิทเชอร์
เลเชนปกครองผืนป่าดึกดำบรรพ์ทั่วทั้งมหาทวีป พวกมันมีเวทมนตร์ที่สามารถควบคุมทั้งพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตของมัน ด้วยเหตุนี้การต่อสู้กับเลเชนจึงเหมือนสู้กับป่าทั้งผืน นับแต่ตอนที่เจ้าก้าวเท้าเข้าไปในป่า เจ้าก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว กว่าจะเข้าถึงตัวมันได้ก็ต้องเจอกับสิงสาราสัตว์สารพัดที่กรูกันเข้ามาโจมตี จนกว่ามันจะไม่เหลือตัวอะไรให้ใช้งานแล้วเจ้าจึงจะได้เห็นร่างของมันที่อยู่ใจกลางป่า
ในการต่อสู้ถึงแม้เลเชนจะโจมตีได้ค่อนข้างช้า แต่กรงเล็บของมันก็อันตรายถึงตาย มันมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว สามารถสลายตัวกลายเป็นหมอกควันก่อนจะรัดตรึงร่างเจ้าด้วยรากไม้ การใช้ระเบิดมูนดัสท์ร่วมกับไฟจะช่วยให้ได้เปรียบมากขึ้น เลเชนที่มีชีวิตอยู่มานานจะสร้างโทเท็มซ่อนไว้ในป่าเพื่อช่วยให้มีพลังมากขึ้น โทเท็มแค่เพียงจุดเดียวก็ยังสามารถทำให้มันฟื้นฟูพลังได้อย่างรวดเร็วและหนีรอดไปจากสายตาของเจ้าได้ เลเชนโบราณมักจะสร้างโทเท็มไว้ห้าจุด นอกจากนี้โทเท็มยังเป็นสิ่งเชื่อมโยงตัวมันเข้ากับชาวบ้านและชุมชนรอบ ๆ ป่า หากเลเชนยังอยู่ในระยะของโทเท็ม มันจะคืนชีพใหม่ทุกครั้งที่ถูกฆ่า
ข้อมูลทั่วไป
- ความสูง 2.5 เมตร
- น้ำหนัก 136 กิโลกรัม
- ถิ่นอาศัย ป่าลึก
- ขนาดฝูง ตัวเดียว
จุดแข็ง: ทนทานต่อเวทมนตร์
จุดอ่อน: Relict Oil / Dimeritium Bomb / Moondust Bomb / ไฟ
Netflix: Nightmare of the Wolf
เจ้ายักษ์ตัวเขียวพวกนี้อาจแก่คร่ำครึ แต่พวกมันสามารถเล่นงานเจ้าจนสลบเหมือดได้ด้วยเถาวัลย์ที่แข็งแรงมาก ๆ
– อ็อกเซนเฟิร์ต ตำราอสุรกาย
เลเชนเป็นหนึ่งในอสุรกายที่เก่าแก่ที่สุด มันอาจมาถึงที่นี่พร้อม ๆ กับการเชื่อมต่อกันของพหุจักรวาล หรืออาจจะอยู่บนโลกนี้มาก่อนหน้านั้นแล้ว (มีใครพอจะบอกได้บ้าง?) สัตว์ประหลาดชนิดนี้ดูคล้ายกับต้นไม้ที่มีรูปร่างเป็นคน กิ่งก้านของมันรวมกันจนดูคล้ายกับแขนขา หรือบางทีก็ดูเหมือนเขากวาง ซึ่งอันที่จริงก็ชวนมองอยู่ไม่น้อย
เลเชนเป็นผู้ปกป้องพงไพร มันสามารถสัมผัสถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในผืนป่าและจะออกอาละวาดเมื่ออาณาเขตของมันตกอยู่ในอันตราย พวกมันไม่ค่อยออกไปนอกเขตป่า แต่ก็เคยมีผู้พบเห็นเลเชนที่ร้ายกาจใกล้ ๆ กับแคร์ มอร์เฮน พวกวิทเชอร์ยังเคยพูดถึงเรื่องนี้กันในปราสาท แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน: เลเชนที่กล้าบุกเข้ามาในถิ่นของนักล่าปีศาจคงจะไม่รอดชีวิตออกไปง่าย ๆ
ในยามนี้ความหวาดกลัวการเผชิญหน้ากับเลเชนได้คอยเหนี่ยวรั้งเจ้าไว้ไม่ให้เข้าไปในป่า แต่มั่นใจได้เลย: พวกเลเชนมันสืบพันธุ์ไม่ได้ ดังนั้น “เจ้าพวกตาสีเขียวที่เรืองแสงออกมาจากเงามืด” จะกลายเป็นอดีตในไม่ช้า
ที่มา: Map of the Continent www.witchernetflix.com
⤝⭑⭑⭑⭑⭑⭑✡✪✡⭑⭑⭑⭑⭑⭑⤞
สปริกกัน (Spriggan)
The Witcher 3: Wild Hunt (DLC Blood and Wine)
Bestiary: Spriggan
ข้ากำลังเก็บเบอร์รี่เหมือนที่คนอื่น ๆ ก็ทำกันในฤดูนี้ ทันใดนั้นเองต้นไม้ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง แล้วข้า… ก็เห็นมัน…
– เรื่องเล่าตอนหนึ่งของสตรีผู้รอดชีวิตออกมาจากป่า
สปริกกันเป็นสายพันธุ์ย่อยของเลเชน นาน ๆ จึงจะมีคนพบเห็นพวกมันในป่าที่ยากแก่การเข้าถึง ปกติแล้วสปริกกันจะไม่โจมตีมนุษย์หากไม่ไปยุ่งกับมันก่อน มันสามารถจู่โจมได้อย่างน่ากลัวด้วยพละกำลังมหาศาลและรุนแรงอย่างเหลือเชื่อ ความหิวกระหายของมันช่างมากมายจนกินเนื้อในปริมาณที่สามารถเลี้ยงทหารทั้งกองทัพ รวมไปถึงบรรดาแขกเหรื่อที่มางานแต่งได้ทั้งหมด
สปริกกันแต่ละตนเป็นนายเหนือหัวของบรรดาแมกไม้และเชื่อมโยงถึงกันอย่างแยกไม่ออก หากมีใครทำลายความเขียวขจีภายในอาณาเขตของมัน คนผู้นั้นก็จะต้องถูกลงโทษ
Grottore (Feet as Cold as Ice)
เรื่องมันเป็นอย่างนี้… ตอนข้ากำลังเดินออกมาจากป่าก็มีฝนกระหน่ำลงมา ข้าจึงคิดว่าจะเข้าไปหลบในโพรงสักแห่งก่อนที่จะเปียกโชกจนเป็นหวัด ข้าจึงคลานเข้าไปในถ้ำ และมันก็อยู่ในนั้น บางอย่างคำรามใส่ข้า! ข้าเลยวิ่งหนีกลับบ้านอย่างไม่คิดชีวิต ขนาดเสื้อคลุมของข้ายังโดนลมซะแห้งสนิทเลย
– เวลิส สเตล หมอสมุนไพร
ไม่มีใครรู้เรื่องราวที่แน่ชัดของสปริกกันที่ชื่อว่า “กร็อตทอร์เร” มันถูกพบเจอครั้งแรกในถ้ำตรงเชิงเขากอร์กอน ทั้ง ๆ ที่สปริกกันมักสร้างรังอยู่ในป่าลึกมากกว่าจะอาศัยอยู่ในถ้ำ
ดูเหมือนว่ากร็อตทอร์เรจะได้ชื่อเล่นมาจากคำว่า “กร็อตโต” (grotto = ถ้ำเล็ก ๆ) มันเป็นที่รู้จักกันในหมู่อัศวินแห่งโบแคลร์ซึ่งเสาะหาสิ่งที่พอจะสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้ตนเองได้ แต่ก็ไม่มีอัศวินผู้ใดที่อาจหาญพอจะไปปราบมัน เว้นแต่อัศวินหนุ่มนามว่า “ฟรองซัว”
กร็อตทอร์เรได้พิสูจน์แล้วว่ามันคือศัตรูที่ร้ายกาจ มันสามารถหายตัวย้ายร่างได้ในพริบตา โผล่พรวดขึ้นมาตรงหน้าเกรอลท์และโจมตีแบบไม่ให้เขาตั้งตัว ซึ่งรุนแรงเกินกว่าที่จะตั้งรับหรือปัดป้องได้ มันยังใช้เวทมนตร์โบราณควบคุมรากไม้ให้พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน และหากโดนจัง ๆ ก็คงเจ็บน่าดู
คาถาอาร์ดทำอะไรมันไม่ได้ แต่เปลวไฟทำได้ เช่นเดียวกับดาบเงินที่สามารถสร้างบาดแผลให้มันได้ แม้มันจะมีเปลือกไม้แข็ง ๆ หุ้มเป็นเกราะป้องกันก็ตาม
จุดอ่อน: น้ำมันรีลิคท์ / ระเบิดไดเมอริเทียม / คาถาอิกนี
จุดแข็ง: ต้านทานต่อคาถาอาร์ด
Monsterpedia by Fans Faction Studio
ดู "Leshen มารพิโรธจากปาลึก" ใน Youtube
ไม่มีความคิดเห็น