สรุปเนื้อเรื่อง The Witcher ซีซัน 2 ตอนที่ 1 A Grain of Truth


Season 2

Episode 1 ความจริง ความลวง (A Grain of Truth)

เส้นเรื่องของเกรอลท์และซีรี

เกรอลท์พาซีรีเดินทางย้อนกลับไปในสนามรบที่เนินซ็อดเดนเพื่อตามหาเยนเนเฟอร์ เช่นเดียวกับทิสซายอาที่ตามหาลูกศิษย์ของเธอด้วยการใช้เวทมนตร์อ่านความทรงจำของทหารที่ตายไปแล้ว เมื่อจอมเวทหญิงได้พบกับวิทเชอร์ผมขาว เธอจึงแจ้งข่าวร้ายให้เขาทราบ แดนเหนือชนะศึกนี้แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความตายของเยนเนเฟอร์ เป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงที่ทำให้หัวใจของเกรอลท์แตกสลาย แต่วิทเชอร์ก็ต้องข่มความเสียใจเอาไว้ เพราะตอนนี้เขามีหน้าที่ที่ไม่อาจละทิ้งได้ นั่นคือการพาเด็กแห่งโชคชะตาไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุด

ระหว่างการเดินทางเข้าไปในป่าใกล้ ๆ กับเมืองเมอริเวล (Murivel) ในอาณาจักรเรเดเนีย เกรอลท์เห็นซากกวางที่น่าจะตายเพราะถูกสัตว์ประหลาดจู่โจม เขาจึงเฉือนเนื้อมันออกมาชิมเพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจ มันเพิ่งตายได้ไม่นาน แสดงว่าป่านี้ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว เกรอลท์จึงรีบพาซีรีขี่ม้าไปยังคฤหาสน์ของเพื่อนเก่าที่ชื่อว่า “นิเวลเลน” แต่เมื่อไปถึงก็ต้องพบว่าเพื่อนของเขากลายสภาพเป็นอสูรไปแล้ว

แม้จะมีรูปร่างภายนอกที่ดูดุร้ายน่ากลัว แต่จิตใจและความทรงจำของนิเวลเลนยังคงอยู่เหมือนเดิม เขาต้อนรับเกรอลท์และซีรีอย่างดีด้วยอาหารและที่นอนอันอบอุ่น นิเวลเลนรู้จักเกรอลท์ครั้งแรกตอนที่เขายังเป็นหนุ่มน้อย พ่อของเขาจ้างเกรอลท์ให้ไปกำจัดไวเวิร์นในป่ารอบ ๆ คฤหาสน์ นิเวลเลนอยากพิสูจน์ตัวเองโดยการฆ่าไวเวิร์นให้ได้เป็นคนแรก แต่ปรากฏว่าเขาพลาดท่าตกลงไปในรังของมันแทน นอกจากเกรอลท์จะตามไปช่วยเขาได้ทันแล้ว วิทเชอร์ยังตัดหัวไวเวิร์นให้นิเวลเลนและบอกพ่อของเขาว่าเด็กหนุ่มเป็นคนฆ่าสัตว์ประหลาดได้ ทั้งคู่จึงกลายเป็นเพื่อนกันนับตั้งแต่นั้น

โชคร้ายที่เพื่อนคนอื่น ๆ ของนิเวลเลนไม่ได้นิสัยดีแบบเกรอลท์ ทำให้เขาหลงผิดไปทำเรื่องเลวร้ายอย่างการทำลายวิหารแมงมุมหัวราชสีห์ (The Temple of the Lionheaded Spider หรือ Coram Agh Tera) นิเวลเลนจึงถูกนักบวชหญิงสาปให้มีรูปร่างเป็นอสูรชั่วร้ายและต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปตลอดกาล นักบวชหญิงยังตะโกนสาปแช่งอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับ “ความรัก” และ “เลือด” แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร พอกลับมาที่คฤหาสน์นิเวลเลนก็กลายร่างเป็นอสูรไปจริง ๆ ด้วยความสับสนทำให้เขาคุ้มคลั่งจนพลั้งมือฆ่าครอบครัวและคนรับใช้จนตายหมดทั้งคฤหาสน์ ความรู้สึกผิดและความสิ้นหวังทำให้นิเวลเลนพยายามฆ่าตัวตาย แต่เขาก็ฟื้นกลับมาได้ทุกครั้ง

เรื่องราวของเขาทำให้เกรอลท์และซีรีรู้สึกหดหู่ตามไปด้วย นิเวลเลนจึงเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการชวนเล่นเกม แต่เกรอลท์ก็ยังไม่หายสงสัยเรื่องที่หมู่บ้านใกล้ ๆ กับคฤหาสน์ถูกทิ้งร้างไปอย่างผิดปกติ นิเวลเลนบ่ายเบี่ยงว่าเป็นเพราะพวกชาวบ้านอพยพหนีสงคราม และการปรากฏตัวของปีศาจแห่งมอร์ฮอกก์ที่ถือเป็นลางร้าย ระหว่างการสนทนาเกรอลท์และซีรีได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนเพดาน แต่นิเวลเลนก็บอกว่าเป็นเสียงแมวที่เขาเลี้ยงเอาไว้ ซึ่งมีชื่อว่า “เวรีนา”

นิเวลเลนส่งซีรีเข้านอน เขาเสกกล่องตะเกียงเล่านิทานเกี่ยวกับเอลฟ์นักรบหญิงที่ตกหลุมรักจอมเวทมนุษย์ ซีรีรู้สึกเห็นใจนิเวลเลนเพราะจิตใจของเขาไม่ได้เลวร้ายเหมือนรูปลักษณ์ภายนอก จึงปลอบใจว่าคำสาปอาจสลายไปได้หากเขาได้พบกับรักแท้ เหมือนกับเรื่องชายหัวเม่นที่เมาส์แสคเคยเล่าให้เธอฟัง นิเวลเลนซาบซึ้งน้ำใจของเด็กสาว แต่เขาก็รู้ตัวว่าคำสาปนี้เป็นการลงโทษที่เขาสมควรได้รับแล้ว

ระหว่างนั้นเกรอลท์ก็กลับออกไปสำรวจด้านนอกคฤหาสน์และกลับมาเล่นเกมปามีดกับนิเวลเลน วิทเชอร์มั่นใจว่าสหายของเขากำลังปิดบังเรื่องสำคัญบางอย่างเอาไว้ แต่นิเวลเลนก็หาจังหวะปลีกตัวไปอีกจนได้ ขณะเดียวกันในห้องนอนของซีรีก็มีบรุกซาตนหนึ่งคืบคลานออกมาจากช่องแคบ ๆ บนเพดาน มันชิมน้ำตาของซีรีที่กำลังนอนฝันร้าย และรู้ว่าเธอมีบางอย่างที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ซีรีตกใจตื่น แต่แวมไพร์สาวก็ไม่ได้ทำร้ายเธอ ตรงกันข้ามมันกลับแนะนำตัวว่ามันคือ เวรีนา เจ้าของเสียงแปลก ๆ ที่ซีรีคิดว่าเป็นเสียงแมวมาตลอด ตอนนี้ซีรีเข้าใจแล้วว่านิเวลเลนรักเวรีนาและต้องการปกป้องแวมไพร์สาวจากนักล่ามอนสเตอร์อย่างเกรอลท์ แต่แล้วเวรีนาก็สะกดจิตให้ซีรีหลับไป

เกรอลท์ออกไปสำรวจที่หมู้บ้านร้างอีกครั้ง คราวนี้เขามั่นใจแล้วว่ามีบรุกซาอยู่ในคฤหาสน์ของนิเวลเลน วิทเชอร์จึงรีบกลับไปปลุกซีรีให้เตรียมตัวหนี ส่วนเขาเองก็ดื่มยาเพิ่มพลังเพื่อเตรียมตัวต่อสู้กับบรุกซา เกรอลท์เห็นมันกำลังดื่มเลือดนิเวลเลนที่นอนหลับอยู่ การต่อสู้ระหว่างแวมไพร์สาวและวิทเชอร์จึงเริ่มต้นขึ้น

เกรอลท์ไล่ต้อนบรุกซาไปข้างนอกคฤหาสน์ มันโจมตีใส่วิทเชอร์อย่างดุเดือดแต่กลับไม่ทำร้ายซีรีเลยแม้แต่น้อย เกรอลท์รุกหนักจนเวรีนาต้องคืนร่างเป็นค้างค้าวยักษ์ แต่การจู่โจมกลางอากาศก็พลาดเป้าจนมันเสียหลักไปชนกับรูปปั้นเข้าอย่างจัง เวรีนากลายร่างเป็นหญิงสาวอีกครั้งและจับซีรีเป็นตัวประกันเมื่อมันหมดทางสู้ มันแค่อยากให้วิทเชอร์จากไป เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับนิเวลเลนเหมือนเดิม

นิเวลเลนไม่ต้องการให้เวรีนาทำร้ายซีรี เขาจึงใช้ทวนแทงทะลุร่างแวมไพร์สาว เวรีนาชะงักและบิดร่างกลับไปเผชิญหน้ากับนิเวลเลน เลือดจากบาดแผลไหลอาบไปบนมือของชายในร่างอสูร เวรีนาบอกรักเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เกรอลท์จะตวัดดาบตัดศีรษะของมันจนขาดกระเด็น ร่างของแวมไพร์ลุกไหม้เป็นเถ้าถ่าน คำสาปสลายลง นิเวลเลนคืนร่างกลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่ดวงใจของเขาได้ตายจากไปแล้ว เวรีนาเป็นคนเดียวในโลกที่ยังรักเขาแม้จะรู้ความจริงว่าเขาเคยทำเรื่องชั่วช้าจนยากที่จะให้อภัยได้… อย่างการข่มขืนนักบวชหญิง

แม้แต่เกรอลท์และซีรีก็ไม่อาจยอมรับการกระทำของนิเวลเลนได้ ทั้งสองคนจึงเดินทางออกมาจากคฤหาสน์ นิเวลเลนอ้อนวอนให้เกรอลท์จบชีวิตเขา แต่วิทเชอร์ก็บอกให้เขาลงมือเอง

"Monsters are more than just horrid looks and claws and teeth. Monsters are born of deeds done. Unforgivable ones."

เหล่าอสูรไม่ได้มีแค่รูปร่างที่น่ากลัวหรือกรงเล็บและคมเขี้ยว อสูรนั้นเกิดจากการกระทำที่ไม่อาจให้อภัยได้


เรื่องราวของนิเวลเลนทำให้ซีรียิ่งหวาดกลัวพลังลึกลับที่แฝงอยู่ในตัวของเธอ มันรุนแรงและควบคุมไม่ได้จนทำให้คนอื่น ๆ ต้องตายมาแล้ว เกรอลท์สอนเด็กสาวให้รับมือความหวาดกลัวด้วยการเผชิญหน้ากับมัน และเขาจะคอยปกป้องเธอเอง

 

เส้นเรื่องของจอมเวทแดนเหนือ

ทิสซายอาและจอมเวทที่รอดชีวิตจากสมรภูมิซ็อดเดนพาคนเจ็บกลับไปรักษาที่อาเรทูซา ทริสที่ถูกทหารนิลฟ์การ์ดใช้คบเพลิงจี้ใส่กลางอกมีอาการแย่ลง แต่สุดท้ายพวกจอมเวทก็ยื้อชีวิตเธอไว้ได้ ในขณะเดียวกันจอมเวทแดนเหนือก็จับตัว คาเฮียร์ มาวร์ ดิฟฟริน เอ็ป เคลเลค แม่ทัพของนิลฟ์การ์ดเอาไว้ได้ ทิสซายอาจึงใช้เวทมนตร์ทรมานและเจาะเข้าไปในความทรงจำของเขาเพื่อเค้นความจริงออกมา แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายนิลฟ์การ์ดจะใช้เวทมนตร์บางอย่างป้องกันเอาไว้ เธอจึงไม่ได้ข้อมูลอะไรจากคาเฮียร์เลย

 

เส้นเรื่องของเยนเนเฟอร์

เยนเนเฟอร์ฟื้นขึ้นมาที่ชายป่าแถบซ็อดเดน เธออยู่ในสภาพสะบักสะบอมและถูกใส่กุญแจมือไดเมอริเทียมเพื่อป้องกันการใช้เวทมนตร์ ส่วนคนที่จับตัวเธอไว้ก็คือ ฟรินจิลลา วิโก พร้อมกับทหารกลุ่มเล็ก ๆ จอมเวทหญิงแห่งนิลฟ์การ์ดยังคงไม่ยอมรับความจริงว่าเธอเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และคิดว่าการจับกุมตัวเยนเนเฟอร์ไปรับโทษประหารอาจจะพอช่วยบรรเทาความล้มเหลวของเธอได้บ้าง เยนเนเฟอร์บอกอดีตเพื่อนร่วมชั้นของเธอให้เลิกเป็นเบี้ยในกระดานของจักรพรรดิเอเมียร์และกลับไปร่วมมือกับเหล่าจอมเวทแดนเหนือ แต่ศรัทธาและความภักดีของฟรินจิลลาก็อาจไม่ถูกสั่นคลอนได้ง่าย ๆ

ด้วยความหิวและความเหนื่อยล้า ในที่สุดฟรินจิลลาก็ยอมให้พวกทหารฆ่าม้าเพื่อกินประทังชีวิต แต่ระหว่างที่กำลังนั่งล้อมวงกินอาหาร พวกเขาก็ถูกซุ่มโจมตีจนพวกทหารตายเรียบ สองจอมเวทหญิงได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่ในวงล้อมของศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ความมืด

พล็อตเรื่องที่แตกต่างระหว่างซีรีส์และนิยาย

  • ในเรื่องสั้น A Grain of Truth (เศษเสี้ยวแห่งความจริง) เกรอลท์เดินทางผ่านไปยังคฤหาสน์ของนิเวลเลนตามลำพัง (ซีรียังไม่เกิด) เขาไม่รู้จักนิเวลเลนมาก่อน และนิเวลเลนก็ไม่ได้ปิดบังเรื่องที่เขาถูกสาปเพราะไปข่มขืนนักบวชหญิง

  • จอมเวทหญิงที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าหายสาปสูญหรือตายไปหลังศึกซ็อดเดนคือ ทริส เมริโกลด์ ส่วนเยนเนเฟอร์นั้นตาบอดทั้งสองข้างเพราะคาถาของฟรินจิลลา แต่ต่อมาก็ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติ

  • หลังจากศึกซ็อดเดน ฟรินจิลลาไม่เคยได้พบเยนเนเฟอร์อีกเลย จนกระทั่งมีการก่อตั้งสมาคมลับจอมเวทหญิง (Lodge of Sorceresses)

  • คาเฮียร์ไม่ได้ถูกจับไปเป็นเชลยของแดนเหนือ แต่ถูกจับไปรับโทษที่นิลฟ์การ์ด

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • ในนิยายนิเวลเลนเลี้ยงแมวจริง ๆ เขาตั้งชื่อมันว่า เจ้าตะกละ (EN: Glutton / PL: Żarłoczka) แม้ตอนแรกมันจะหนีไปตอนที่เขากลายร่างเป็นอสูร แต่สุดท้ายมันก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนเขา

  • ในขณะที่ฟรินจิลลาโต้เถียงกับเยนเนเฟอร์ เธอเหน็บแนมเยนเนเฟอร์ว่า “เจ้าน่ะตาบอด” เป็น easter egg ที่บอกใบ้ว่าในนิยายนั้นเยนเนเฟอร์ตาบอดจริง ๆ

 

แผนที่

ที่ตั้งคฤหาสน์ของนิเวลเลน ที่มา witchernetflix.com

 

📜 อ่าน สรุปเนื้อเรื่องซีซัน 2 ตอนที่ 2⏩

 

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.