The Witcher ซีซัน 2 เผยเบื้องหลังงานสร้างสุดอลังการก่อนลงจอ

IGN บราซิลเผยแพร่บทสัมภาษณ์ แอนดรูว์ ลอวส์ (Andrew Laws) ผู้ออกแบบงานสร้างและผู้วางคอนเซปต์สัตว์ประหลาดในซีรีส์เดอะวิทเชอร์ พร้อมวิดีโอเบื้องหลังการออกแบบฉากอันตระการตา โดยในบทสัมภาษณ์เขาได้เล่าถึงความท้าทายในซีซัน 2 ที่ต้องตรึงความสนใจผู้ชมให้ได้อย่างต่อเนื่องไปพร้อม ๆ กับการดำเนินเนื้อเรื่อง ส่วนอุปสรรคสำคัญก็คงเป็นเรื่องข้อจำกัดของสถานที่ถ่ายทำในช่วงการระบาดของโควิด-19 เมื่อไม่สามารถเดินทางข้ามไปมาระหว่างประเทศได้ ทีมงานจึงต้องปักหลักอยู่ในอังกฤษและเนรมิตฉากต่าง ๆ ขึ้นมาในอาร์เบอร์ฟิลด์สตูดิโอแทน

ในวิดีโอด้านล่างนี้ แอนดรูว์ ลอวส์ ได้พาเราไปสำรวจเบื้องหลังการสร้างโลกในจินตนาการให้กลายเป็นจริงขึ้นมา เริ่มตั้งแต่ห้องประชุมของแผนกออกแบบศิลป์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เปิดกว้างให้ทีมงานทุกคนได้เสนอไอเดียในการสร้างสรรค์องค์ประกอบต่าง ๆ เริ่มจากตัวปราสาทแคร์มอร์เฮนซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของซีซันนี้ เนื่องจากตลอดทั้งซีซัน 2 จะมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นที่นี่ แคร์มอร์เฮนจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะกำหนดภาพรวมทั้งหมดตลอดทั้งซีซัน แน่นอนว่าองค์ประกอบต่าง ๆ นั้นมาจากนิยายของซัพคอฟสกี ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างรูปลักษณ์และบรรยากาศภายในป้อมปราการแห่งนี้

 

 

ทีมงานได้รังสรรค์มหาทวีปขึ้นมาโดยการผสมผสานงานสถาปัตยกรรมจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นศิลปกรรมของยุโรป สแกนดิเนเวีย และสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ส่วนปราสาทแคร์มอร์เฮนก็ได้ไอเดียมาจากป้อมปราการในอินเดีย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้โลกของเดอะวิทเชอร์มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ดูกว้างใหญ่และเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันทีมงานก็ต้องการนำเสนอมุมมองที่สดใหม่ให้กับแฟนเกมด้วย พวกเขาจึงไม่ต้องการจะทำซ้ำ ๆ ในสิ่งที่วิดีโอเกมเคยทำมาเล้ว

ในซีซันที่แล้วทีมงานได้สร้างอัตลักษณ์ให้กับโรงเรียนอาเรทูซา แต่เราก็ได้เห็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ในซีซันนี้จึงมีการออกแบบรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมลงไป อย่างในภาพด้านล่างนี้ก็แสดงให้เห็นถึงลานกว้างและสวนภายในอาเรทูซาว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร

เอพิโสดแรกของซีซันนี้ค่อนข้างเป็นเอกเทศจากส่วนอื่น ๆ ทีมงานได้ออกแบบคฤหาสน์ของนิเวลเลนเพื่อกำหนดโทนของเรื่องราวในซีซันนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจและยังช่วยกรุยทางให้กับผู้ชมในซีซัน 2 ได้คุ้นเคยกับบรรยากาศโดยรวมของเรื่องอีกด้วย

ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทีมงานพัฒนาขึ้นมาในซีซันนี้ก็คือสัตว์ประหลาดชนิดต่าง ๆ เพราะผู้ชมจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าพวกมันคืออะไรและมาจากไหน เริ่มจากนิเวลเลนที่เป็นการผสมผสานการแต่งเอฟเฟคต์ทำมือเข้ากับ CGI ในส่วนของใบหน้า เพื่อสร้างสัตว์ประหลาดที่มีศีรษะคล้ายหมีผสมหมูป่า นอกจากนี้ยังมีเลเชนซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีร่างกายเป็นต้นไม้ ที่ทีมงานได้ออกแบบให้พวกมันมีความหลากหลายทั้งรูปร่าง การเคลื่อนไหว และรายละเอียดเฉพาะตัวต่าง ๆ

Concept Art ของนิเวลเลน

Concept Art ของเลเชน โดยแต่ละตัวจะมีลักษณะที่แตกต่างกันอีกด้วย

 

แอนดรูว์ ลอวส์ ยังพาเราไปชมฉากต่าง ๆ ทั้งในและนอกสตูดิโออีกด้วย เริ่มจากทางเข้าปราสาทแคร์มอร์เฮนที่จะนำไปสู่ลานหลังกำแพงชั้นนอกของป้อมปราการที่เคยเกิดศึกครั้งใหญ่เมื่อนานมาแล้ว ทำให้วิทเชอร์จำนวนมากต้องเสียชีวิตไปในการต่อสู้ครั้งนั้น จะเห็นว่าร่องรอยความเสียหายยังคงปรากฏให้เห็นในซีซัน 2 ไม่ว่าจะเป็นประตูป้อมปราการที่พังไปแล้ว หอคอยบางส่วนก็พังถล่มลงมา แต่กำแพงของป้อมปราการยังคงอยู่เหมือนเดิม ส่วนสะพานเชื่อมตรงกลางนั้นพังเสียหายไปจนหมด นอกจากนี้ยังมีโครงกระดูกของกริฟฟินและผู้ที่ล้มตายในศึกครั้งนั้นโผล่ขึ้นมาให้เห็นจากพื้นดินอีกด้วย

ฉากต่อไปคือคฤหาสน์ของนิเวลเลนที่ด้านหลังเป็นฉากเขียวขนาดใหญ่เพื่อใช้ CGI ต่อเติมส่วนที่เหลือทางด้านบนเช่นเดียวกับด้านนอกของปราสาทแคร์มอร์เฮน ส่วนฉากสวนรูปปั้นแห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นในอาร์เบอร์ฟิลด์สตูดิโอเช่นเดียวกับด้านในของปราสาทแคร์มอร์เฮน เพื่อให้กล้องสามารถเก็บบรรยากาศภายในได้อย่างต่อเนื่อง และยังช่วยให้นักแสดงรู้สึกถึงสภาพแวดล้อมจริง ๆ ในฉากนั้น

ฉากห้องโถงใหญ่ของปราสาทแคร์มอร์เฮนถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน สามารถเก็บภาพได้จากทุกมุมมองเพื่อสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของเหล่าวิทเชอร์ และยังเต็มไปด้วยรายละเอียดที่จะตรึงความสนใจจากผู้ชมได้ทุกครั้ง ถัดจากห้องโถงใหญ่จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องเก็บอาวุธและห้องทดลองใต้ดินที่พวกวิทเชอร์ใช้ศึกษาสัตว์ประหลาด ข้าวของต่าง ๆ ถูกจัดวางไว้โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานจริง ๆ ทั้งตัวอย่างชิ้นส่วนของสัตว์ประหลาดและอุปกรณ์ผ่าตัดที่พวกวิทเชอร์ใช้ชำแหละซาก เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องนี้และเห็นภาพว่าพวกวิทเชอร์ศึกษาสัตว์ประหลาดด้วยวิธีไหนบ้าง

และทั้งหมดนี้ก็คือโลกยุคกลางในสไตล์ของเดอะวิทเชอร์ และปราสาทแคร์มอร์เฮนอันเก่าแก่ทรุดโทรมที่แม้จะผ่านการทำลายล้างมานับครั้งไม่ถ้วน แต่มันก็ยังคงยืนหยัดเป็นบ้านที่อบอุ่นของเหล่าวิทเชอร์ สัมผัสความตระการตาของงานสร้างเต็มรูปแบบพร้อมกัน 17 ธันวาคมนี้ทาง Netflix เท่านั้น

ห้องทดลองใต้ดิน

คลังแสงของสำนักหมาป่าที่มีอาวุธหลากหลายชนิด ชุดเกราะ และหินลับดาบ

Concept Art คฤหาสน์ของนิเวลเลน

Concept Art ที่ตั้งของปราสาทแคร์มอร์เฮน

Concept Art ของอุปกรณ์ฝึกที่เรียกว่า Pendulum หรือลูกตุ้มยักษ์

Concept Art (ซ้าย) วิหารเทพีเมลิเทเล, (ขวา) ตรอกในเมืองดอเรี่ยน

 

ที่มา: IGN Brazil

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.