ม้วนบันทึกสีฟ้า (เนื้อเรื่องฝั่งเกรอลท์)
เกรอลท์สบถ เสื้อนอกรัดรูปปักดิ้นทองบีบรัดท้องแขนจนแน่นและหน้ากากที่เขาสวมใส่ก็ทำให้มองเห็นไม่ถนัดนัก นอกจากนี้พวกมันยังไร้ประโยชน์สิ้นดี หากเพียงแค่เหลือบมองเส้นผมและดาบที่เขาสะพายกลางหลังก็มากพอแล้วที่จะทำให้สิ้นสงสัย อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีทางเลือก การสวมหน้ากากเทศกาลซาโอวีนเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติตาม และเป็นข้อบังคับที่ท่านหญิงผู้เป็นเจ้าบ้านได้ระบุไว้ ท่านหญิงโอริอานนา ลูกค้าผู้จ้างวานเขา
เขามองไปทั่ว ๆ ห้องอย่างเกียจคร้าน แขกหลาย ๆ คนกำลังมึนเมาในระดับที่แตกต่างกันออกไป ต่างคนต่างดื่ม ต่างพากันรุ่มร้อนสิเน่หา ประติมากรนามวาเลนไทน์ผู้เป็นคู่แข่งของแดนดีไลออนในหลาย ๆ ด้านกำลังมีปากเสียงกับคู่รักของเขา สตรีสูงศักดิ์โฉมงามนางหนึ่งผู้มีลำคอเรียวยาวดั่งหงส์ เกรอลท์จับความไม่ได้ว่าพวกเขากำลังโต้เถียงกันเรื่องอะไร เขาควรทำตามคำสั่ง ไม่ใช่ทำตามศีลธรรม แต่วิทเชอร์พนันว่าเป็นเรื่องที่แดนดีไลออนเข้าไปมีเอี่ยวด้วย บรรยากาศของทูซองต์แผลงฤทธิ์ใส่ทุกคนเสมอ
ความสนใจของวิทเชอร์ถูกดึงดูดด้วยความเคลื่อนไหวตรงหัวโต๊ะ ชายสูงศักดิ์สวมชุดสีดำกำมะหยี่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผู้ใช้เวลาตลอดทั้งราตรีไปกับงานรื่นเริงซึ่งคลาคล่ำไปด้วยแขกเหรื่อเจ้าสำราญ บัดนี้เขาค่อย ๆ ทรุดกายลงบนเก้าอี้พร้อมกับส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกท่ามกลางงานเลี้ยง เกรอลท์ไม่ขยับเขยื้อนจากตำแหน่งของเขา ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ขวดเปล่าของโคทเดอเบลเซียร์หล่นลงจากมือของชายชุดดำ และตอนนี้เขาก็กรนเสียงดังสนั่น
‘เจ้าไม่สะดุ้งเลย’ โอริอานนาโฉบผ่านเขาราวกับเป็นภูตผี ‘ข้าไม่ได้จ้างเจ้าให้มายืนยามหรอกนะ วิทเชอร์’
‘เจ้าก็ไม่ได้จ้างข้าให้สะดุ้งเหมือนกัน’ เกรอลท์พิงผนัง ‘อันตรายเดียวที่เขากำลังเผชิญอยู่คืออาการเมาค้าง ยิ่งมาจากของแรง ๆ ขวดนั้นด้วย’
โอริอานนาประเมินเขาด้วยสายตาของนาง ยิ้มด้วยริมฝีปากปิดแน่น เขารู้จักรอยยิ้มแบบนี้ดี รอยยิ้มของพวกแวมไพร์
‘เกรอลท์ นั่นเจ้าใช่ไหม?’ วิเวียน เดอ ทาบริส นางสนองพระโอษฐ์ของดัชเชสแอนนา เฮนเรียตตา ผู้ซึ่งเผยร่างครึ่งคนครึ่งนกขมิ้นเมื่อไม่นานมานี้ กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้า ๆ
‘ไม่ นี่ไม่ใช่ข้า เป็นแค่ใครสักคนที่ดูเหมือนข้าทุกกระเบียดนิ้ว เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? วิเวียน’ เขามองนางด้วยความสงสัยของมืออาชีพ ‘ยังมีขนนกงอกออกมาอีกหรือเปล่า? เจ้าไม่กลายร่างอีกใช่ไหม?’
‘เปล่า เปล่าเลย’ หญิงสาวมองไปรอบ ๆ ด้วยความประหม่าโดยไม่จำเป็น งานเต้นรำดำเนินมาจนถึงช่วงรื่นเริงเต็มที่ ตอนนี้นักเล่นกลล่องหนผู้หนึ่งกำลังรินไวน์ให้กับหญิงสาวสูงศักดิ์ในงาน อาจเป็นโฉมงามคอระหงที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ ขณะที่แดนดีไลออนกำลังถูกจับโยนออกไปจากงานเลี้ยง ในสถานการณ์เช่นนี้คงไม่มีใครใส่ใจกับความลับของนางสนองพระโอษฐ์หรือพวกเด็กรับใช้อีกแล้ว
‘ฟังนะ ข้า…’ วิเวียนเอ่ยขัดจังหวะ เขาสังเกตเห็นว่านางดูกระสับกระส่ายพร้อมกับลอบชำเลืองไปยังทิศทางเดิม ๆ ซึ่งซียานนากำลังยืนลูบไล้ก้านของจอกเครื่องดื่มอยู่ตามลำพังภายใต้หน้ากากที่ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มชั่วร้ายเอาไว้ได้ ความเกลียดชังแผ่ซ่านออกมาจากกายของนาง ซียานนารังเกียจทุก ๆ คนที่ภคินีทรงเมตตา ทุก ๆ คนที่ดัชเชสแอนนา เฮนเรียตตา ผู้ปราดเปรื่องรู้จักมักคุ้น วิทเชอร์ยักไหล่ เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องแผนร้ายในราชสำนัก นอกจากนี้เขาก็ไม่คิดอิจฉาซียานนาเลย เหล่าแวมไพร์ทั่วทั้งโบแคลร์ล้วนเกลียดชังนางหลังเด็ตลาฟตายจากไป หากมิใช่พระประสงค์ของดัชเชส นางคงไม่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานเต้นรำครั้งนี้ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำฤดูกาล ส่วนพวกข้าราชบริพาร… พวกข้าราชบริพารแห่งโบแคลร์นั้นเลวร้ายยิ่งกว่าพวกแวมไพร์ที่เกลียดชังน้องสาวของดัชเชสที่เพิ่งกลับเข้าวังเสียอีก
‘เกรอลท์’ วิเวียนออกอาการวิตกอย่างชัดเจน ‘ข้าอยากออกไปจากที่นี่ และ…’ เขาไม่ได้ยินคำพูดที่เหลือ ทุกสรรพเสียงถูกกลบด้วยเสียงกรีดร้องทิ่มแทงแก้วหู เกรอลท์เอื้อมมือจับดาบอย่างรวดเร็วพร้อมกับดึงหน้ากากออก แล้วกวาดสายตาไปรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ ร่างกายตึงเขม็ง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ งานเต้นรำของเหล่าแวมไพร์… มันไม่มีทางจบในแบบอื่นไปได้
‘ใครอนุญาตให้พวกเจ้าทำแบบนี้?!’ เสียงตวาดดังลั่นห้องโถง ‘บอกมาว่าใครปล่อยให้พวกเจ้าประพฤติเยี่ยงนี้ต่อท่านไวเคานท์… ต่อท่านจูเลียนของข้า?!’
เกรอลท์ผละมือออกจากดาบทันทีและถอนหายใจยาว เขารู้จักเสียงนั้นเป็นอย่างดี เขายังรู้จักเรือนผมอันประณีตสมบูรณ์แบบนั้นด้วย ดาบเหล็กทำอะไรนางไม่ได้ ดาบเงินก็เช่นกัน
ดัชเชสแอนนาเรียตตา องค์เหนือหัวแห่งทูซองต์ ท่านหญิงแห่งโบแคลร์ เสด็จมาในคืนนี้ด้วย
‘ข้าไปหาอะไรดื่มดีกว่า’ วิทเชอร์ทำเสียงหงุดหงิด
วิเวียนหายตัวไประหว่างนั้น เกรอลท์รู้สึกว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างผู้ปกครองเจ้าตรรกะกับแวมไพร์ชั้นสูงผู้ปิดบังตัวตน เขาตัดสินใจออกไปเดินเล่น สนทนาพาทีกับพ่อบ้านคนหนึ่งซึ่งเบื่อหน่ายเต็มแก่กับการตรวจตราให้มั่นใจว่าแขกทุกคนที่มาร่วมงานนั้นได้รับเชิญจริง ๆ เมื่อถึงประตูเขาก็ชนเข้ากับใครบางคนที่พรวดพราดผ่านเข้ามา ชายผู้นั้นเซถลาและคงล้มหัวทิ่มหากไม่ได้ปฏิกิริยาตอบสนองของวิทเชอร์ช่วยเอาไว้ เกรอลท์ได้ยินเสียงแกร็กเบา ๆ สองสามครั้ง วัตถุบางอย่างกลิ้งไปบนพื้น ชายที่ถูกพยุงเงยหน้ามองเกรอลท์ สีหน้าของแขกผู้นี้ดูหวั่นวิตกแปลก ๆ เกรอลท์ไม่แปลกใจนัก เขารู้ดีว่ารูม่านตาของตัวเองจะสร้างความรู้สึกเช่นไรให้กับผู้ที่ได้มองเห็นใกล้ ๆ เขาปล่อยมือออกจากแขนชายผู้นั้น เขาคือท่านวาเลนไทน์ผู้เป็นคู่แข่งของแดนดีไลออน ประติมากรหายเข้าไปในซอกหลืบของคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เกรอลท์ก้มลงไปเก็บวัตถุที่ร่วงหล่นลงบนพื้นอันเป็นผลจากการที่พวกเขาเดินชนกัน
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงแดนดีไลออนกรีดร้อง วิทเชอร์รีบวิ่งออกไปจากคฤหาสน์ทันที
นักกวีกรีดร้องราวกับถูกปีศาจเข้าสิง ฟันของเขากระทบกันราวกับคนรัวกรับ ยังดีที่สายตาคู่หนึ่งทำให้เขารู้ตัวว่ายังอยู่รอดปลอดภัยและวิญญาณยังคงอยู่ในร่างตัวเอง แดนดีไลออนพูดพล่ามว่ามีแวมไพร์ออกอาละวาด ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้คงเป็นเรื่องหฤหรรษ์ทีเดียว เกรอลท์มั่นใจว่า แม้โอริอานนาจะมีพิธีรีตองอันเคร่งครัดเพื่อเป็นหลักประกันว่านางคือตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของเหล่าผีดูดเลือด แต่ยังคงมีแวมไพร์ตนอื่นอยู่ที่นั่นด้วย เขาตรวจจับออร่าของนอสเฟอรัตหรือคาตาคันตนหนึ่งได้ มันกำลังล่องหนและซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแขกในงาน ใช่แล้ว เกรอลท์คงจะหัวเราะลั่นหากคำพูดของนักกวีไม่ได้มาพร้อมกับท่าทางหวาดหวั่นของเขา
แดนดีไลออนอยากให้เขาดูอะไรบางอย่าง เกรอลท์เดินตามนักกวีไปในทันที เขาชักจะกังวลขึ้นมาแล้ว ในตรอกมืด ๆ ที่อยู่ห่างจากงานเลี้ยงที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาไปเพียงไม่กี่ก้าว… มีศพหญิงสาวนางหนึ่ง คว่ำหน้าแน่นิ่ง
เกรอลท์สบถ ศพนั้นสวมชุดกระโปรงสีดำทองปักลายกุหลาบ แบบเดียวกับที่เขาเห็นวิเวียนสวมใส่เมื่อครู่
เกรอลท์ไม่สนใจแขกเหรื่อคนอื่น ๆ ชายที่ถูกเขาเดินชนจนหกล้มตะโกนใส่วิทเชอร์จากทางด้านหลัง แต่ก็เขาไม่ได้หันกลับไปมอง เขาอยากคุยเรื่องนี้กับโอริอานนาให้เร็วที่สุด ท่านหญิงแวมไพร์กำลังร่วมโต๊ะอาหาร นางนั่งบนเก้าอี้ไม้โอ๊คตัวใหญ่ที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงเลือดนก พลางคลึงเล่นจอกไวน์ว่างเปล่าและจ้องมองแขกเหรื่ออย่างละเอียดถี่ถ้วนราวกับผู้ปกครองสอดส่องอาณาจักรด้วยสายตาของตัวเอง ค่ำคืนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปหานาง หากนางไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยปากเรียก ไม่มีใครอื่นนอกจากวิทเชอร์และนักกวีที่เดินตามเขามา พวกเขาโค้งคำนับนางพอเป็นพิธี โอริอานนาส่งสัญญาณให้พวกเขาเข้าไปใกล้ ๆ เกรอลท์กระซิบบางอย่างข้าง ๆ หูนางอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าอันงดงามชวนพิศวงของนางยังคงแสดงสีหน้าเช่นเดิม เมื่อวิทเชอร์พูดจบ เจ้าภาพงานเลี้ยงหาได้เอ่ยคำไม่ เพียงแต่พยักหน้าและเรียกคนรับใช้คนหนึ่งให้เดินเข้าไปหา
ครู่หนึ่งหลังจากนั้นนางก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้และปรบมือเป็นสัญญาณ ห้องโถงพลันสว่างสไวด้วยคบเพลิงและเทียนไขที่เหล่าคนรับใช้นำเข้ามาเสริมในห้อง เสียงแห่งความสำราญของงานเลี้ยงเงียบลงทันที
‘แขกเหรื่อที่รักทั้งหลาย ขออภัยที่ข้าต้องขัดจังหวะงานฉลองซาโอวีนของพวกท่าน โปรดทราบว่าข้ามิปรารถนาเช่นนี้เลย ช่างโชคร้ายที่ข้าไม่มีทางเลือกอื่น วิทเชอร์เกรอลท์แห่งริเวียผู้ให้เกียรติมาร่วมงานในวันนี้ ได้นำข่าวร้ายอันน่าสะพรึงกลัวมาบอกข้า วันนี้หนึ่งในแขกที่ข้าเชื้อเชิญได้ถูกฆาตกรรม และฆาตกรยังคงอยู่ภายในห้องนี้ ท่านสงสัยว่าเป็นฝีมือใคร? ท่านวิทเชอร์’
เกรอลท์นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงเริ่มสาธยาย
อ่าน >> 📜🔴 ม้วนบันทึกสีแดง (เนื้อเรื่องฝั่งแดนดีไลออน)
หรือเลือกตอนจบ
แบบที่ 1 เกรอลท์เลือกกล่าวหาวาเลนไทน์
แบบที่ 2 เกรอลท์เลือกกล่าวหาคาตาคัน
แบบที่ 3 เกรอลท์เลือกกล่าวหาซียานนา
ไม่มีความคิดเห็น