การอัญเชิญปีศาจ (Goetia)
การอัญเชิญปีศาจ หรือ มารวิทยา (demonology) จัดว่าเป็นศาสตร์แห่งเวทมนตร์ที่อันตรายที่สุดบนมหาทวีป เนื่องจากมันข้องเกี่ยวกับพลังอำนาจที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจและตรรกะทั้งปวง แม้แต่จอมปราชญ์เอลฟ์ผู้มากด้วยวิชาความรู้ก็ยังไม่สามารถหยั่งถึงได้ แม้พวกเราจะรู้จักปีศาจชนิดต่าง ๆ เช่น ไฮม์ (hym), บาร์เกสต์ (barghest), มาริลูยด์ (mari lwyd) และอีกมากมาย แต่ยังคงไม่มีใครรู้ข้อมูลที่แน่ชัดของพวกมันเลย ไม่ว่าจะเป็นจุดกำเนิดหรือมิติของพวกมันที่ยังคงเป็นปริศนาอันดำมืด ศาสนาและลัทธิต่าง ๆ มักเชื่อว่าพวกเขารู้จักมารวิทยาเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่เคยมีปีศาจจริง ๆ สักตนมายืนยันทฤษฎีเหล่านั้น ผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมารวิทยามักถูกพบเป็นศพในสภาพร่างแหลกเละหรือถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ จากพลังอำนาจที่พวกเขาพยายามทำความเข้าใจ และมีไม่น้อยที่หายสาบสูญไปตลอดกาล
การอัญเชิญปีศาจนั้นแตกต่างจากการควบคุมศพและการสร้างสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ตรงที่มันไม่ต้องใช้ความรู้หรือประสบการณ์ แม้แต่เด็กที่ไม่ประสีประสาหรือไม่เคยรู้จักเวทมนตร์มาก่อนก็อาจอัญเชิญปีศาจออกมาได้หากบังเอิญไปสะดุดเข้ากับตำราผิดเล่ม หรือมีความอาฆาตพยาบาทและความปรารถนาที่แรงกล้า บางคนก็เชื่อว่าพวกปีศาจนั้นแตกต่างจากพวกจินน์ (djinn) จากมิติแห่งธาตุทั้งสี่ เพราะดูเหมือนว่าพวกมันกระสันที่จะถูกอัญเชิญออกมา ซึ่งทุกครั้งที่มีการอัญเชิญปีศาจก็จะเกิดความวิบัติตามมาเสมอ และมีแต่พวกปีศาจเท่านั้นที่เป็นฝ่ายได้ประโยชน์ ปีศาจที่สัมผัสได้ถึงการอัญเชิญจากต่างมิติมักจะตอบรับเมื่อมันรู้ว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบ เมื่อมั่นใจว่ามันสามารถใช้ความฉลาดแกมโกงหรือใช้พลังบีบบังคับเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาให้มอบสิ่งที่มันปรารถนาอย่างง่ายดาย
แม้จะทราบดีถึงอันตรายอันใหญ่หลวงแต่ผู้คนก็ยังคงศึกษาค้นคว้าศาสตร์แขนงนี้ และนักมารวิทยาก็ยังมุ่งมั่นที่จะอัญเชิญปีศาจต่อไปด้วยความทะเยอทะยาน ความสิ้นหวัง และความมืดบอดตามวิสัยมนุษย์ ปีศาจสามารถใช้พลังอำนาจดลบันดาลให้ผู้คนสมปรารถนาหรือให้พรได้เช่นเดียวกับจินน์ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองกองเท่าภูเขา ความรู้ที่สาบสูญ หรือพลังเหนือมนุษย์ พวกปีศาจมักเสนอสิ่งเหล่านี้ให้แก่ผู้ที่อัญเชิญพวกมัน แต่ก็มักหาทางบิดเบือนคำพูดเพื่อตลบหลังคนเหล่านั้นไปด้วย พรทุกข้อมีราคาที่ต้องจ่าย… บ่อยครั้งสิ่งที่ได้มาก็ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องสูญเสียไป
ตัวอย่างปีศาจชนิดต่าง ๆ (จากซ้ายไปขวา) : ไฮม์, บาร์เกสต์ และ มาริลูยด์ |
การติดต่อกับปีศาจ
ผู้ใดก็ตามสามารถทำพีธีอัญเชิญปีศาจได้ ขอเพียงแค่มีความปราถนาที่แรงกล้าพอ พิธีกรรมอัญเชิญอย่างง่ายนั้นทำได้ง่ายดายสมชื่อ แต่ก็มีความอันตรายอย่างถึงที่สุด ส่วนมากผู้อัญเชิญจะถูกปีศาจสังหารทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้น การอัญเชิญที่แท้จริงจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ประกอบพิธี หากข้ามแม้แต่ขั้นตอนเดียวก็จะนำมาซึ่งหายนะ ผู้อัญเชิญจะต้องรู้ให้แน่ชัดว่าตนเองต้องการเชิญปีศาจตนใดออกมา และทำพิธีขนานนาม (Ritual of Naming) เพื่อให้รู้ชื่อที่แท้จริงของปีศาจก่อนทำพิธีอัญเชิญ นอกจากนี้ยังต้องใช้ผ้าคลุมหนังแกะ (Goatskin Mantle) ซึ่งเป็นเครื่องรางชนิดพิเศษเพื่อป้องกันอันตรายจากปีศาจ โดยหนังแกะที่นำมาใช้จะต้องถูกแล่ด้วยกริชศิลาโลหิต (Bloodstone Dagger) เท่านั้น นักมารวิทยาที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถอัญเชิญปีศาจได้อย่างจำเพาะเจาะจงและปลอดภัยยิ่งขึ้น
แต่หลังจากอัญเชิญปีศาจสำเร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะยิ่งทวีความยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก แม้ปีศาจที่ถูกอัญเชิญจะไม่มีพันธะใด ๆ กับผู้ทำพิธี แต่มันจะยังคงวนเวียนอยู่ไม่ห่างเพื่อพยายามทำสัญญากับผู้ที่อัญเชิญมันมา ปีศาจแต่ละตนจะมีความหมกมุ่นเฉพาะอย่างและต้องการเครื่องสังเวยที่แตกต่างกัน และจะไม่ยอมต่อรองหรือรับเครื่องสังเวยอย่างอื่นที่มันไม่ต้องการ หากการทำสัญญาลุล่วงไปได้ด้วยดี ผู้อัญเชิญก็จะได้รับในสิ่งที่ปรารถนา อย่างไรก็ตามพวกปีศาจมักจะหาทางบิดเบือนคำสัญญาเพื่อเอาเปรียบ หรือบางทีพวกมันอาจทำไปเพราะเพียงแค่อยากเล่นสนุกเท่านั้น นักมารวิทยาจึงต้องคิดค้นวิธีผูกพันธะเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
พวกปีศาจจะไม่ยอมทำสัญญาหากมันไม่ได้ในสิ่งที่หมายตาเอาไว้ เว้นแต่จะถูกผูกมัดด้วยพิธีกรรมผูกพันธะ (Ritual of Binding) มีนักมารวิทยาเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้นานพอที่จะเรียนรู้พิธีกรรมนี้ นอกจากความซับซ้อนและอันตรายที่อาจเกิดได้ทุกเมื่อ พิธีกรรมนี้ยังต้องใช้วัตถุเวทมนตร์ที่เรียกว่า คทาแห่งการผูกพันธะ (Staff of Binding) อีกด้วย คทานี้จะกักปีศาจเอาไว้ด้วยพลังเวทเข้มข้นและบีบบังคับปีศาจให้ยอมจำนน หากประกอบพิธีกรรมสำเร็จ ผู้อัญเชิญจะสามารถใช้พลังจากปีศาจได้ทุกเมื่อตามต้องการโดยไม่จำเป็นต้องมอบสิ่งใดเป็นการตอบแทน แน่นอนว่าปีศาจที่ถูกผูกมัดย่อมหาทางหลบหนีและจะกลับมาล้างแค้นผู้อัญเชิญเสมอ หากปีศาจหนีออกไปได้ ทางรอดของผู้อัญเชิญก็จะเหลือเพียงแค่การฝากความหวังไว้กับวิทเชอร์สักคนเท่านั้น
จอมเวทหญิงกลินนิส วาร์ เทรฮาร์น เผชิญหน้ากับปีศาจที่สิงร่างพ่อของเธอ |
พิธีกรรมอัญเชิญปีศาจ
◆ การอัญเชิญอย่างง่าย (Uncontrolled Summoning)
สิ่งที่ต้องเตรียม: ชอล์กสำหรับวาดวงเวท
ขั้นตอน: เลือกตัวแทนออกมาหนึ่งคนเพื่อทำหน้าที่กล่าวนำคำอัญเชิญ ตัวแทนจะออกมายืนอยู่ด้านหน้า ส่วนผู้เข้าร่วมพิธีคนอื่น ๆ จะยืนอยู่ด้านหลังเป็นรูปครึ่งวงกลม ใช้ชอล์กวาดวงเวทลงบนพื้นข้างหน้า ให้ตัวแทนตั้งสมาธิและนึกถึงชื่อปีศาจที่จะอัญเชิญ จากนั้นจึงกล่าวชื่อที่ผุดขึ้นในใจออกมาดัง ๆ ทีละพยางค์ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าอย่างต่อเนื่อง จนกว่าปีศาจจะปรากฏตัวขึ้นมา
ผลลัพธ์: พิธีกรรมนี้มีความอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากปีศาจที่ถูกอัญเชิญไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยสิ่งใดทั้งสิ้น ผู้อัญเชิญจึงไม่สามารถควบคุมมันได้เลย ปีศาจอาจจู่โจมอย่างเกรี้ยวกราดหรือยอมทำสัญญาด้วยก็ได้ นอกจากนี้ผู้อัญเชิญยังไม่อาจคาดเดาได้ว่าปีศาจชนิดใดจะปรากฏตัวขึ้น พิธีกรรมนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้อัญเชิญปีศาจเสียชีวิต
◆ การอัญเชิญแบบควบคุม (Controlled Summoning)
สิ่งที่ต้องเตรียม: เทียนไข 5 เล่ม, มวลสารเจตภูต, ผงอาคม, น้ำมัน
ขั้นตอน: เทน้ำมันลงในถ้วยแล้วเติมผงอาคมกับมวลสารเจตภูตลงไป ผสมให้เข้ากันจนกลายเป็นของเหลวข้นหนืด เทลงบนพื้นเป็นรูปวงกลม จากนั้นจึงปักเทียน 5 เล่มข้างนอกวงด้วยระยะห่างเท่า ๆ กัน นำเครื่องสังเวยที่ปีศาจชนิดนั้นโปรดปรานมาวางไว้ในวงกลม ซึ่งก็มีตั้งแต่อาหารและเหล้าไปจนถึงชิ้นเนื้อของผู้อัญเชิญที่ตัดออกมาสด ๆ จากนั้นจึงเอ่ยชื่อปีศาจออกมาดัง ๆ ปีศาจจะถูกดึงดูดด้วยเครื่องสังเวยและเสียงเรียกขานที่ฟังดูคล้ายกับชื่อของตน ทุกครั้งที่เอ่ยชื่อปีศาจจะมีเทียนไขหนึ่งเล่มที่ติดไฟขึ้นเอง และเมื่อเทียนไขทั้ง 5 เล่มติดไฟ ปีศาจก็จะปรากฏตัวขึ้น
ผลลัพธ์: พิธีกรรมนี้จะช่วยให้ผู้อัญเชิญสามารถเลือกชนิดของปีศาจที่จะอัญเชิญมาได้จากการใช้เครื่องสังเวย และเลือกได้อย่างเจาะจงยิ่งขึ้นหากทำพิธีกรรมขนานนามมาก่อน อย่างไรก็ตาม หากผู้อัญเชิญไม่มีเครื่องรางคุ้มภัยอย่างผ้าคุลมหนังแกะหรือเครื่องรางอื่น ๆ ก็อาจถูกปีศาจฆ่าตายหรือถูกสิงร่างได้อยู่ดี
โอลเกียร์ด วอน เอเวอเรค ขณะทำพิธีอัญเชิญปีศาจ |
◆ พิธีกรรมขนานนาม (Ritual of Naming)
สิ่งที่ต้องเตรียม: ถ่านหิน, ไม้เนื้อแข็งสำหรับทำเป็นฟืน, กระดูกสัตว์ร้าย, ผงอาคม, กิ่งต้นเฮเซล, เลือดของผู้อัญเชิญ
ขั้นตอน: ก่อกองไฟโดยใช้กระดูกสัตว์ร้าย, ถ่านหิน และไม้ฟืน รอจนกว่าเปลวไฟจะลุกโหมจนกลายเป็นสีส้มสุกสว่าง ผสมผงถ่านหินและผงอาคมเข้ากับเลือดของผู้อัญเชิญแล้วจึงนำมาพอกผิวกาย จากนั้นให้ถือกิ่งต้นเฮเซลไว้ในมือระหว่างลนผิวส่วนที่พอกไว้ด้วยเปลวไฟ พร้อมกับนึกถึงปีศาจที่ต้องการทราบชื่อ ส่วนผสมบนผิวหนังจะทำให้เปลวไฟเปลี่ยนเป็นสีขาวและจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังถูกเผา เมื่อไฟสีขาวมอดลงก็ให้นำร่างกายส่วนนั้นออกจากกองไฟ ชื่อที่แท้จริงของปีศาจจะปรากฏให้เห็นบนคราบของผงถ่านที่หลงเหลืออยู่บนผิวหนัง
ผลลัพธ์: พิธีกรรมนี้จะทำให้ผู้อัญเชิญรู้ชื่อที่แท้จริงของปีศาจ หากพิธีกรรมเกิดความผิดพลาด ชื่อของปีศาจจะปรากฏเป็นรอยไหม้อยู่บนผิวหนังของผู้ทำพิธี และรอยนี้จะทำให้ผู้อัญเชิญเกิดอาการกลัวแสงสว่างด้วย นอกจากนี้ปีศาจเจ้าของชื่อจะรู้ตำแหน่งและสามารถติดตามตัวผู้ทำพิธีได้ และวันใดวันหนึ่งมันก็อาจจะปรากฏตัวขึ้นมาเอง ส่วนผลที่ตามมานั้นคงคาดเดาได้ไม่ยากนัก
◆ พิธีกรรมผูกพันธะ (Ritual of Binding)
สิ่งที่ต้องเตรียม: เทียนไข 5 เล่ม, มวลสารเจตภูต, ผงอาคม, น้ำมัน, ถ่านหิน, ก้อนแร่เงิน, คทาแห่งการผูกพันธะ, เลือดของผู้อัญเชิญ 1 คนโท
ขั้นตอน: ผสมน้ำมัน ผงอาคม และมวลสารเจตภูต แล้วสร้างเป็นวงเวทพร้อมปักเทียนเช่นเดียวกับพิธีกรรมอันเชิญแบบควบคุม เตรียมส่วนผสมอย่างที่สองโดยการเทผงถ่านหินลงในคนโทเลือดแล้วนำมาเขียนชื่อของปีศาจล้อมรอบด้านนอกของวงเวทอัญเชิญ นำก้อนแร่เงินมาเรียงไว้ด้านในวงเวทเพื่อสร้างอาณาเขตกักขังปีศาจ แล้วนำเครื่องสังเวยวางไว้ด้านในสุด ผู้อัญเชิญจะเรียกขานชื่อปีศาจจากนอกวงเวท ส่วนปีศาจจะปรากฏขึ้นตรงกลางวงและถูกกักขังไว้ในกรงเวทมนตร์ จากนั้นผู้อัญเชิญจะใช้คทาแห่งการสร้างพันธะทรมานปีศาจจนกว่ามันจะยอมรับพันธะและทำตามความต้องการของผู้อัญเชิญ
ผลลัพธ์: ก่อนเริ่มทำพิธีนี้ผู้อัญเชิญจะต้องรู้ชื่อของปีศาจผ่านพิธีกรรมขนานนามก่อน กรงเวทมนตร์จะทำให้ปีศาจไม่สามารถทำอันตรายหรือสิงร่างผู้อัญเชิญได้ คทาแห่งการผูกพันธะคืออาวุธชนิดเดียวที่สามารถแทรกผ่านกรงเวทมนตร์นี้ ส่วนเวทมนตร์และอาวุธอื่น ๆ นั้นไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้ เมื่อปีศาจยอมรับพันธะ มันจะไม่สามารถละเมิดข้อตกลงได้จนกว่าพันธะจะแตกสลายไป ระหว่างนี้ผู้อัญเชิญสามารถเรียกใช้ปีศาจได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องทำพิธีอัญเชิญอีก หากผู้อัญเชิญมีพลังเวทอ่อนลง ปีศาจอาจใช้จังหวะนี้ทำลายพันธะและหลบหนีไป นั่นหมายถึงผู้อัญเชิญอาจต้องพบกับจุดจบที่น่าสยดสยองในไม่ช้า
ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าไม่มีทางที่จะทำให้พวกปีศาจเชื่อฟังได้ นี่ไงล่ะ... สิ่งที่จะทำให้พวกเขาเลิกเชื่อแบบนั้น ข้ารู้ชื่อของมันแล้ว และเขียนลงบนไม้คทาอย่างถูกต้อง ข้าตรวจดูอีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ครั้งนี้เจ้าปีศาจนั่นจะหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว จนกว่าข้าจะอนุญาต
– บันทึกที่พบในชิ้นส่วนลำตัวของศพที่ถูกแช่แข็งและแตกเป็นเสี่ยง ๆ
แปลและเรียบเรียงจากคู่มือ TRPG “The Witcher Role-Playing Game” เล่ม “A Tome of Chaos”
ไม่มีความคิดเห็น