เวนดิโก (Vendigo)
เวนดิโก เป็นอสุรกายที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนนัก พวกมันอาศัยอยู่ตามภูเขาสูงทางตอนเหนือของมหาทวีป โดยเฉพาะเทือกเขาในอาณาจักรโคเวียร์ นอกจากจะกินมนุษย์เป็นอาหารแล้ว เวนดิโกยังเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกนักเดินทางเกิดพฤติกรรมกินเนื้อคน (canibalism) อีกด้วย ตำนานเกี่ยวกับเวนดิโกจึงมักเป็นเรื่องราวเหนือธรรมชาติหรืออาถรรพ์บนภูเขามากกว่าที่จะเป็นเรื่องราวของมันโดยตรง
สัตว์ประหลาดชนิดนี้ไม่เคยถูกกล่าวถึงในนิยายของ Andrzej Sapkowski และมีตัวตนอยู่ในจักรวาลเกมเท่านั้น มีการวางคอนเซ็ปต์ของเวนดิโกในช่วงการพัฒนาเกม The Witcher 3 ก่อนที่มันจะถูกถอดออกไปในภายหลังเช่นเดียวกับมอนสเตอร์อีกหลายตัว ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าทีมงานได้นำรูปลักษณ์ของมันมาปรับเปลี่ยนเป็นเลเชนแทน โดยข้อมูลที่รั่วไหลออกมาในช่วงแรกของการพัฒนาระบุเอาไว้ว่า เวนดิโกเป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ อาศัยอยู่ในป่าคล้ายกับพวกมนุษย์หมาป่า ร่างกายส่วนหนึ่งเป็นน้ำแข็งและโจมตีผู้คนโดยการควักหัวใจออกมาจากออก มันโจมตีค่อนข้างช้าแต่ทว่ารุนแรง นอกจากนี้ยังกระโดดได้ไกลและสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เวนดิโกยังมีจุดอ่อนตรงที่แพ้เปลวไฟเหมือนพวกเลเชนอีกด้วย
แต่ถึงกระนั้น ในเกม The Witcher 3 ก็ยังมีการกล่าวถึงเวนดิโกอยู่ครั้งหนึ่ง หากผู้เล่นเลือกให้เกรอลท์ลงเอยกับทริส จะมีบทสนทนาที่เกรอลท์บอกกับซีรีว่าเขาจะย้ายไปอยู่ที่โคเวียร์หลังจากเรื่องทุกอย่างจบลง และซีรีจะเอ่ยถึงชื่อสัตว์ประหลาดในแถบนั้น ซึ่งเวนดิโกก็เป็นหนึ่งในสามชื่อที่ซีรีเอ่ยถึง
เกรอลท์: ไม่แน่ใจว่าเจ้ารู้หรือยัง แต่หลังจากเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว ข้าจะย้ายไปอยู่ที่โคเวียร์
ซีรี: กับทริส?
เกรอลท์: อืม…
ซีรี: มันก็เป็นดินแดนที่น่าสนใจอยู่นะ บางทีท่านอาจถูกว่าจ้างให้ไปกำจัดสัตว์ประหลาดหายากที่อาศัยในเขตหิมะก็ได้ พวกบาร์เบกาซี หรือเวนดิโก… หรืออาจจะเป็น…เอ่อ… อามาร็อก
เกรอลท์: หรือบางทีข้าอาจไม่ต้องจับดาบอีก
ซีรี: อยู่กับนางแล้วท่านรู้สึกดีใช่ไหม?
เกรอลท์: ดีกว่าเดิม
ในปี 2020 เวนดิโกก็ปรากฏอยู่ในสารานุกรมสัตว์ประหลาด (bestiary) ในส่วนขยาย tabletop RPG เล่ม A Witcher’s Journal และถูกจัดอยู่ในประเภทผู้ถูกสาป ซึ่งระดับความยากและพลังชีวิตของมันก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับเลเชนเลยทีเดียว
The Witcher Role-Playing Game (A Witcher's Journal)
ความเชื่อของคนทั่วไป
แปลกแฮะ… ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องสัตว์ประหลาดที่เรียกว่าเวนดิโกมาก่อนเลย มีแต่เรื่องเหนือธรรมชาติที่พวกชาวบ้านลือกันเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเทือกเขาเคสเทรล เทือกเขามังกร แล้วก็เทือกเขาสีน้ำเงินกับภูเขาอื่น ๆ ด้วย ครั้งล่าสุดที่ข้าข้ามเทือกเขาเคสเทรล ผู้ดูแลโรงแรมแถวนั้นก็บอกให้ข้าคอยมองชายป่าไว้ให้ดี และบอกให้ข้าเตรียมสเบียงเพิ่มไปอีกหกวันจากที่คาดการณ์ไว้ ตอนนั้นข้าคิดว่าเขาคงจะหาเรื่องมาหลอกลวงลูกค้า แต่ตอนนี้ข้าก็ชักไม่แน่ใจแล้ว ไม่นานมานี้ข้าได้ยินเรื่องชวนขนหัวลุกจากชาวเคนกอร์นที่เล่าว่ามีภูตผีหรือปีศาจคอยตามหลอกหลอนพวกนักเดินทาง ทำให้พวกเขารู้สึกหิวโหยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นักเดินเขาบางคนยังบอกให้เตรียมอาหารไปเยอะ ๆ และหาหน้ากากไม้แกะสลักที่ใช้ในพิธีกรรมของชาวเหนือที่อยู่ทางเหนือสุดมาใส่ไว้ด้วย
ความรู้ของวิทเชอร์
เวนดิโกออกล่าเหยื่อบริเวณภูเขาสูงทางตอนเหนือของมหาทวีป เจ้าต้องโชคร้ายอย่างที่ถึงสุดจึงจะมีโอกาสได้พบเจอพวกมันสักตน เวนดิโกมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ผอมและสูงจนดูผิดธรรมชาติ บนหัวมีเขาแตกกิ่งก้านคล้ายเขากวางขนาดใหญ่ ผิวหนังขาวซีดและขาดวิ่นเหมือนซากศพ ดูราวกับนักเดินทางผอมโซที่มีริมฝีปากเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรังกำลังเดินเปล่าเปลือยอยู่ท่ามกลางหิมะ
นอกจากจะมีสติปัญญาทัดเทียมมนุษย์และกรงเล็บพิฆาตที่ใช้จัดการเหยื่อ รวมไปถึงประสาทรับกลิ่นที่เฉียบคมเหมือนสัตว์ป่าและสายตาที่มองเห็นได้ในที่มืด เวดิโกยังมีเวทมนตร์ทรงพลังเป็นอาวุธที่ทำให้มันร่ายคำสาปอันน่าสะพรึงกลัวได้ คำสาปนี้จะทำให้ผู้ที่ถูกสาปหิวโหยและหันมากินเนื้อคนภายในสามวัน เวนดิโกจะร่ายคำสาปโดยการจ้องตาเหยื่อ หากคนผู้นั้นมีจิตใจอ่อนแอก็จะถูกคำสาปเล่นงานทันที
เวนดิโกกำลังจ้องมองนักเดินทางที่พักแรมกลางป่า (ศิลปิน Martina Fackova ภาพจาก ArtStation) |
คำสาปของเวนดิโกจะส่งผลในวันรุ่งขึ้น ผู้ถูกสาปจะรู้สึกหิวโหยอย่างหนักและอยากกินเนื้อดิบ ๆ อยู่ตลอดเวลา หากไม่สามารถหาเนื้อดิบมากินได้ ผู้ถูกสาปก็จะยิ่งหิวโหยและอ่อนแอยิ่งขึ้นในวันถัดมา ในเช้าวันที่สองผู้ถูกสาปจะหิวจนท้องร้องไม่หยุด และรู้สึกหิวกระหายเนื้ออุ่น ๆ ที่ยังมีเลือดชุ่มโชก แน่นอนว่าถ้าหากเขาไม่ได้กินในสิ่งที่ต้องการ ความหิวโหยจะยิ่งรุนแรงขึ้นในวันถัดไป เมื่อถึงเช้าวันที่สาม สิ่งเดียวที่จะดับความหิวกระหายของผู้ถูกสาปได้ก็มีแต่เนื้อมนุษย์ หากผู้ถูกสาปไม่สามารถครองสติเอาไว้ได้หลังจากตะวันตกดิน เขาก็จะถูกเวนดิโกควบคุมอย่างสมบูรณ์และกลายสภาพเป็น “ลูกหลานเวนดิโก” (Vendigo Spawn) ที่แทบไม่หลงเหลือความเป็นมนุษย์อีกต่อไป สติปัญญาของพวกเขาจะลดลงจนอยู่ในระดับเดียวกับสัตว์เดรัจฉานและมีภูมิต้านทานต่อเวทมนตร์เพิ่มขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอมีทางที่จะถอนคำสาปเพื่อรักษาชีวิตของผู้ที่ถูกเวดิโกสาปได้
วิธีแรกคือการสังหารเวนดิโกที่ร่ายคำสาป โดยจำเป็นต้องใช้ระเบิดไดเมอริเทียมเพื่อป้องกันไม่ให้เวนดิโกร่ายคำสาป แล้วจึงสังหารมันด้วยดาบเงินชโลมน้ำมันผู้ถูกสาปหรือใช้ไฟเผา จะเป็นไฟจากคบเพลิงหรือเวทมนตร์ก็มีประสิทธิภาพไม่ต่างกัน เมื่อเวนดิโกถูกสังหาร คำสาปก็จะสลายไป ทำให้ผู้ที่ถูกสาปทั้งหมดหลุดพ้นจากการครอบงำในคราวเดียว
วิธีที่สองคือการนำผู้ที่ถูกเวนดิโกสาปออกไปให้พ้นจากเขตภูเขา แล้วขอให้พวกจอมเวทหรือนักบวชช่วยลบล้างคำสาปเวนดิโกออกไป หากจอมเวทหรือนักบวชผู้นั้นสามารถร่ายคาถาที่แรงพอจะหักล้างคำสาปได้ ผู้ที่ถูกสาปก็จะหลุดพ้นจากการควบคุมในที่สุด
การป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นเป้าคำสาปของเวนดิโกนั้นทำได้ง่ายมาก พวกเวนดิโกหวาดกลัวเปลวไฟเป็นที่สุดและจะไม่จู่โจมคนที่อยู่ใกล้เปลวไฟเป็นอันขาด กองไฟที่ลุกไหม้ตลอดทั้งคืนจะช่วยป้องกันไม่ให้เวนดิโกเข้ามาใกล้จุดพักแรม หากจะเดินออกไปทำธุระกลางป่าก็ควรถือคบเพลิงไปด้วย สัญญาณอื่น ๆ ที่บอกว่าในบริเวณนั้นมีเวนดิโก ได้แก่ อาหารจะเน่าเสียอย่างรวดเร็วทั้ง ๆ ที่อยู่ท่ามกลางอากาศหนาว รวมไปถึงพายุหิมะที่ก่อตัวขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ และถ้าหากมีเพื่อนร่วมทางที่รู้สึกหิวโหยอยู่ตลอดเวลา ก็พึงสงสัยว่าคนผู้นั้นอาจถูกคำสาปของเวนดิโกเข้าให้แล้ว
ข้อมูลทั่วไป
- ความสูง 3.5 เมตร
- น้ำหนัก 110 กิโลกรัม
- ถิ่นอาศัย บริเวณภูเขาสูง
- ขนาดฝูง ตัวเดียว
ความสามารถในการต่อสู้
- เสกพายุหิมะ (summon blizzard) เวนดิโกสามารถสร้างพายุหิมะที่มีรัศมีไม่เกิน 50 เมตรจากตัวของมันและจะพัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่องตามที่มันต้องการ จอมเวทหรือนักบวชสามารถร่ายคาถาลบล้างพายุหิมะนี้ได้ และถ้าหากเวนดิโกตาย พายุก็จะสลายไปเช่นกัน
- เสกอาหารให้บูดเน่า (spoil food) เวนดิโกสามารถทำให้อาหารและเครื่องดื่มบนพื้นที่ 1 ตารางเมตรเน่าเสียได้ในทันที ผู้ที่รับประทานเข้าไปอาจติดสถานะคลื่นไส้อาเจียนได้
ต้านทาน : มนตร์สะกด / ความเย็น
จุดอ่อน : Fire / Cursed Oil / Dimeritium Bomb / Moondust Bomb
ไม่มีความคิดเห็น