สรุปเนื้อเรื่องคอมิกส์ The Witcher: Killing Monsters
เนื้อหานี้ทำขึ้นเพื่อสรุปเรื่องราวให้กับผู้ที่สนใจคอมิกส์ Killing Monsters สามารถอ่านคอมิกส์เล่มนี้ในรูปแบบ PDF หากซื้อ DLC Blood and Wine (ดาวน์โหลดได้ที่หน้า Extra บน GOG)
The Witcher: Killing Monsters
วางจำหน่ายครั้งแรก: ปี 2015 สำนักพิมพ์ Dark Horse Comics
เนื้อเรื่อง Paul Tobin | ภาพ Max Bertolini | ลงสี Carlos Badilla | อักษร Nate Piekos of Blambot
คอมิกส์ชุดนี้คือเหตุการณ์ที่แต่งขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเทรลเลอร์ Killing Monsters ของเกม The Witcher 3: Wild Hunt ที่เกรอลท์ตัดสินใจช่วยหญิงสาวคนหนึ่งจากเงื้อมมือของพวกทหารนิลฟ์การ์ด สะท้อนให้เห็นมุมมองของเกรอลท์ต่อความอยุติธรรมที่ขัดแย้งกับหลักการวางตัวเป็นกลางของเหล่าวิชเชอร์ เนื้อเรื่องทั้งหมดมีความยาว 48 หน้า วางจำหน่ายแบบรูปเล่มครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2015 ก่อนที่จะมีการทำเป็นไฟล์แถมมาใน DLC Blood and Wine ในปี 2016 นอกจากนี้ยังถูกรวมไว้ในฉบับคอลเล็กชัน The Witcher Omnibus Volume 1 ทั้งแบบรูปเล่มและแบบดิจิทัลคอมิกส์
สรุปเนื้อเรื่อง
เกรอลท์กับเวสิเมียร์กำลังเดินทางตามหาร่องรอยของเยนเนเฟอร์ จอมเวทหญิงได้เบาะแสว่ามีคนพบเห็นซีรีแถว ๆ เมืองเวเลน เธอจึงแจ้งข่าวนี้ให้เกรอลท์รู้ก่อนที่จะกลบเกลื่อนร่องรอยของตัวเองเพื่อความปลอดภัย ระหว่างขี่ม้าไปยังแถบชนบท เวสิเมียร์ก็ให้เกรอลท์ทบทวนการต่อสู้ครั้งล่าสุดที่เขาปราบกริฟฟินลงได้ อาจารย์เฒ่ายังคงมีข้อเสนอแนะและคอยย้ำคำสอนให้กับลูกศิษย์อยู่เสมอ
วิทเชอร์ทั้งสองเดินทางมาถึงเมืองโวรูน เมืองเล็ก ๆ แถบชายแดนของเวเลนที่ถูกทหารนิลฟ์การ์ดยึดเอาไว้ เกรอลท์ตั้งใจจะสืบหาข่าวจากพวกโสเภณีแต่ก็ถูกนักเลงเจ้าถิ่นเข้ามาหาเรื่องชวนวิวาท ชายผู้นั้นไม่รู้ว่าเกรอลท์เป็นวิทเชอร์ เขาจึงถูกคาถาอาร์ดซัดจนกระเด็น พวกทหารนิลฟ์การ์ดที่เห็นเหตุการณ์ก็ฉวยโอกาสชิงถุงเงินของนักเลงคนนั้นไป ด้านนายกอง “ดรูแกน” ผู้เป็นหัวหน้าทหารนิลฟ์การ์ดเห็นว่ามีวิทเชอร์เข้ามาในเมือง จึงเสนอเสนอให้เกรอลท์ออกไปล่าฟีนด์ที่ออกอาละวาดฆ่าพวกชาวบ้านไปหลายราย แลกกับค่าหัว 40 ฟลอเรนและชีวิตของเด็กชายคนหนึ่ง เกรอลท์จึงตกลงรับงานนี้
ก่อนหน้านั้นรองหัวหน้าหน่วยทหารนิลฟ์การ์ดนามว่า “แมสซี” ได้แอบบอกใบ้ความลับบางอย่างให้เกรอลท์รู้ เขาบอกว่ามี “เหตุฆาตกรรม” พวกชาวบ้านเกิดขึ้นหลายครั้งในป่า “สัตว์ประหลาดชั่วร้าย” กำลังออกอาละวาดคร่าชีวิตผู้คนในเมืองนี้ เขาเป็นคนพบศพผู้นำหมู่บ้านนอนตายอยู่ตรงถนนที่ตัดผ่านป่า ใบหน้าของศพถูกทำลาย และขาข้างหนึ่งก็ขาดหายไปด้วย
วิทเชอร์ทั้งสองออกไปรวบรวมเบาะแสเพิ่มเติมจากพวกชาวบ้าน โสเภณีคนหนึ่งเจอศพชายหนุ่มที่นัดพบกันไว้ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ส่วนชาวนาได้ยินเสียงประหลาดคล้ายกับเสียงขู่คำรามของพวกหมาป่า ในขณะที่เด็กชายซึ่งเรียกตัวเองว่า “บอลต์เดอะแบล็ก” ได้ยินเสียงคล้ายกับโละหะชิ้นเล็ก ๆ กระทบกันตอนที่เขาขึ้นไปนั่งเล่นบนหลังคาโรงแรม ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้อง เวสิเมียร์ได้เบาะแสว่ามีอยู่ศพหนึ่งที่ท่อนแขนมีรอยตัดที่เรียบสนิท และถุงเงินของคนตายก็ถูกขโมยไปด้วย ส่วน “บาซีลี” ที่ต้องทำหน้าที่หัวหน้าหมู่บ้านหลังจากสามีของเธอถูกฆ่าตายก็รวบรวมรายชื่อชาวบ้านที่หายตัวไปมาให้ดู เธอไม่เชื่อว่าพวกชาวบ้านที่ตายไปเป็นฝีมือของฝูงหมาป่าอย่างที่ใครบางคนสงสัย นอกจากนี้เจ้าของโรงแรมยังบอกว่าศพที่พบบางรายก็มีร่องรอยถูกแทง แต่เขาก็บอกไม่ได้ว่ามันเกิดจากอาวุธหรือกรงเล็บของสัตว์ประหลาดกันแน่
คำบอกเล่าที่แตกต่างกันของพวกชาวบ้านทำให้วิทเชอร์ทั้งสองรู้ว่ามีบางคนพูดโกหกเพื่อปิดบังความจริงบางอย่างไว้ เวสิเมียร์เตือนลูกศิษย์ว่าอย่าไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของวิทเชอร์ โดยเฉพาะในยามสงครามเช่นนี้ ความยากลำบากสามารถเปลี่ยนผู้คนให้ทำสิ่งเลวร้ายได้ไม่ต่างจากพวกสัตว์ประหลาด แต่ถึงกระนั้นวิทเชอร์ก็ต้องวางตัวเป็นกลางและทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์ต่อไป แต่เกรอลท์เห็นว่ามันเป็นคำสอนที่ฟังดูขี้ขลาด เวสิเมียร์จึงต้องเตือนแบบชัด ๆ ว่าการสังหารทหารนิลฟ์การ์ดจะยิ่งทำให้องค์จักรพรรดิกริ้ว และสุดท้ายแม้แต่พวกวิทเชอร์ก็จะต้องกลายเป็นเหยื่อของสงครามเข้าสักวัน
ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่วิทเชอร์ทั้งสองยังคงตามร่องรอยของสัตว์ประหลาดไปเรื่อย ๆ พวกเขาทบทวนเทคนิคในการรับมือกับฟีนด์ จนกระทั่งเกรอลท์พบรอยเลือดเก่า ๆ ที่นำทางไปสู่กระท่อมหลังหนึ่งซึ่งไร้สัญญาณของผู้อยู่อาศัย ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีแสงสว่างใด ๆ เล็ดลอดออกมา เวสิเมียร์ตั้งท่าพร้อมต่อสู้ แต่ก็ต้องผงะเมื่อมีเกรเวียร์ตัวหนึ่งพุ่งทะลุประตูออกมา โชคดีที่หมาป่าเฒ่ายังมีสัญชาตญาณดีเยี่ยม เขาจึงเบี่ยงตัวหลบและฟันฉับเข้าที่คอของมัน
วิทเชอร์ทั้งสองเข้าไปสำรวจในกระท่อม แต่ก็พบเพียงซากศพของครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกสังหารมาหลายวันแล้ว ทันใดนั้นเองตราสำนักหมาป่าของเวสิเมียร์ก็สั่นขึ้นดั่งสัญญาณเตือนภัย ท่อนแขนมหึมาของฟีนด์กระชากตัวหมาป่าเฒ่าผ่านบานหน้าต่างที่เปิดอ้า แต่มันก็ต้องปล่อยมือเมื่อเกรอลท์ตวัดดาบใส่ต้นขาของมัน วิทเชอร์ทั้งสองเข้าตะลุมบอนกับฟีนด์แต่ก็ไม่อาจเอาชนะพละกำลังมหาศาลไปได้ และก่อนที่พวกเขาจะเพลี่ยงพล้ำ ก็มีเจ้าเด็กใจกล้าก็หยิบก้อนหินขว้างใส่สัตว์ประหลาดสุดแรงเกิด ฟีนด์ปล่อยตัววิทเชอร์ทั้งสองและหันไปเล่นงานบอลต์เดอะแบล็กแทน แต่เกรอลท์ก็เข้าไปคว้าตัวเด็กชายและวิ่งหนีไปพร้อมกับเวสิเมียร์
วิทเชอร์ทั้งสองพาบอลต์เดอะแบล็กมาเลี้ยงอาหารที่โรงแรมเพื่อเป็นการขอบคุณ เกรอลท์ยังควักเหรียญให้เด็กชายอีกจำนวนหนึ่ง แต่บอลต์ก็ขอรับเฉพาะอาหารเท่านั้น เพราะมองว่าการช่วยชีวิตผู้อื่นแลกกับเงินทองนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เด็กชายสบตาวิทเชอร์ก่อนจะพูดเป็นนัยว่า เสียงโลหะกระทบกันที่เขาได้ยินไม่ได้มาจากฟีนด์ มันไม่ใช่ฆาตกรที่เขาเห็นในคืนนั้น นี่คือสิ่งที่เกรอลท์ระแคะระคายอยู่แล้ว สัตว์ประหลาดไม่ปล้นเงินทองหรือฆ่าคนด้วยคมดาบ ในที่สุดเด็กชายก็ยอมเล่าความจริงให้วิทเชอร์ทั้งสองฟัง
เกรอลท์และเวสิเมียร์ตรงดิ่งเข้าไปหาพวกทหารนิลฟ์การ์ดที่กำลังนัวเนียกับหญิงบริการอยู่ข้างนอก หมาป่าขาวตะโกนใส่หน้านายกองว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว ดรูแกนยอมรับอย่างไม่สะทกสะท้านว่าพวกเขาปล้นฆ่าพวกชาวบ้าน พร้อมกับตั้งท่าเตรียมตัวจะมีเรื่อง แต่เกรอลท์ก็เปลี่ยนท่าทีไปคุยเรื่องการออกล่าสัตว์ประหลาด และต่อรองให้ดรูแกนส่งลูกน้องบางส่วนออกไปช่วยตามล่าฟีนด์ด้วย เวสิเมียร์มองออกทันทีว่าลูกศิษย์ของเขามีแผนการบางอย่างในใจ เขาจึงเตือนเกรอลท์ไม่ให้ทำเกินหน้าที่ของวิทเชอร์อีกครั้ง
เกรอลท์ฝันว่าได้ร่วมรักอย่างเร่าร้อนกับเยนเนเฟอร์ เขาสะดุ้งตื่นเมื่ออาจารย์เข้ามาปลุกในตอนรุ่งเช้า ขณะที่วิทเชอร์ทั้งสองกำลังขี่ม้าออกนอกเมือง พวกเขาก็เห็นชาวบ้านยืนมุงดูอะไรบางอย่าง เวสิเมียร์บอกเกรอลท์ให้ขี่ม้าต่อไป เพราะสิ่งที่พวกชาวบ้านยืนมุงดูอยู่คือศพที่ถูกทหารนิลฟ์การ์ดตัดหัว และหนึ่งในนั้นก็มีศพของเจ้าหนูบอลต์เดอะแบล็กรวมอยู่ด้วย พวกทหารอ้างว่าชาวบ้านเหล่านี้ลักลอบเข้าไปขโมยข้าวของในเตนท์เสบียง เกรอลท์ได้แต่ยืนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เวสิเมียร์เอ่ยปากเตือนลูกศิษย์อีกครั้งว่าวิทเชอร์ไม่อาจมอบความยุติธรรมให้กับเหยื่อของสงครามได้ และตอนนี้ยังมี “สัตว์ประหลาด” ที่พวกเขาต้องออกไปตามล่า เกรอลท์จึงยอมขี่ม้าตามอาจารย์ไปยังจุดนัดพบ
ดรูแกนและทหารนิลฟ์การ์ดขี่ม้าไปรอที่ชายป่าแล้ว นายกองปะทะคารมกับเกรอลท์เรื่องการสังหารพวกชาวบ้าน แต่สุดท้ายทุกคนก็ขี่ม้าตัดทะลุไปยังอีกฝั่งของป่าเพื่อเด็ดหัวสัตว์ประหลาดตามที่ตกลงกันไว้ ณ กระท่อมที่เคยเป็นสมรภูมิระหว่างวิทเชอร์กับฟีนด์ เกรอลท์บอกว่าเขาได้เตรียมเหยื่อไว้แล้ว จากนั้นก็เรียกรองหัวหน้าหน่วยแมสซีให้ขี่ม้าออกไปด้วยกัน
ดรูแกนหันไปถามเวสิเมียร์ว่าเหยื่อที่เตรียมไว้อยู่ตรงไหน หมาป่าเฒ่าจึงเฉลยว่าเกรอลท์ได้ใช้เวลาทั้งคืนไปเก็บสมุนไพรหายากมาสกัดเป็นน้ำยาที่มีกลิ่นดึงดูดฟีนด์ และลูกศิษย์ของเขาคงจะหยดมันลงบนอานม้าของดรูแกนไปเรียบร้อยแล้ว พูดยังไม่ทันขาดคำ ฟีนด์ตัวมหึมาก็พุ่งเข้าโจมตีดรูแกนและกลุ่มลูกน้องของเขาทันที เวสิเมียร์ควบม้าตามไปสมทบกับเกรอลท์และรองหัวหน้าแมสซี ปล่อยให้ “สัตว์ประหลาด” ไล่ฆ่าฝูง “สัตว์ประหลาด” ที่อาละวาดฆ่าผู้บริสุทธิ์มานาน ดรูแกนและทหารนิลฟ์การ์ดคนอื่น ๆ ถูกสัตว์ร้ายฉีกเป็นชิ้น ๆ ในพริบตา
“ข้าคิดว่าพวกวิทเชอร์ไม่ฆ่าคน…” แมสซีตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“เราก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะไม่ทำแบบนั้น” เกรอลท์ตอบ ส่วนหมาป่าเฒ่าก็เสริมว่า “แต่มันไม่มีกฎข้อไหนที่บอกว่าวิทเชอร์ต้องหยุดยั้งไม่ให้พวกสัตว์ประหลาดฆ่ากันเอง”
“ข้าต้องป้องกันไม่ให้พวกชาวบ้านลุกฮือ ข้าจะบอกพวกเขาว่าฟีนด์ลงมือสังหารดรูแกนไปแล้ว ก่อนที่พวกท่านจะทันได้ช่วยเขา” รองหัวหน้าหน่วยเข้าใจแผนการทั้งหมดแล้ว
วิทเชอร์ทั้งสองเข้าตะลุมบอนกับฟีนด์ การต่อสู้ไปเป็นอย่างสูสีเพราะพวกเขาเตรียมตัวมาดีกว่าครั้งที่แล้ว เวสิเมียร์และเกรอลท์ผลัดกันเข้าโจมตีด้วยเพลงดาบและคาถาวิทเชอร์ แต่ก็ยังไม่วายถูกสะบัดจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง แมสซีจะเข้าไปช่วยด้วยความหวังดี แต่เขาก็พลาดท่าถูกฟีนด์ใช้ดวงตาที่สามสะกดจิตจนตัวแข็งทื่อ โชคดีเวสิเมียร์ก็พุ่งเข้ามาคว้าตัวทหารนิลฟ์การ์ดออกไปได้ทันเวลา ทำให้ฟีนด์เสียหลักจากการจู่โจมพลาดเป้า และเกรอลท์ก็ใช้จังหวะนั้นเด็ดหัวสัตว์ประหลาดทันที
รองหัวหน้าหน่วยแมสซีกลับไปบอกพวกชาวบ้านว่าหน่วยของเขาได้เสียชีวิตจากการออกไปช่วยเกรอลท์ล่าฟีนด์ และเขายังใช้โอกาสนี้ขับไล่พวกโจรที่ฉวยโอกาสปล้นชาวบ้านออกไปจากเมืองอีกด้วย วิทเชอร์ทั้งสองขี่ม้าออกไปจากเมืองโวรูนพร้อมกับหัวสัตว์ประหลาดเพื่อนำไปขึ้นเงินค่าจ้าง 40 ฟลอเรน ช่างเป็นงานที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
“การฆ่าสัตว์ประหลาดเป็นสิ่งที่วิทเชอร์ต้องทำ ท่านเคยสอนข้าไว้อย่างนั้น เราฆ่าสัตว์ประหลาดบางตัวเพื่อแลกเงิน แต่บางตัวเราก็ฆ่าเพราะว่าพวกมันสมควรตาย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางตัวที่เราไม่สามารถลงมือฆ่าได้ แม้ว่าเราอยากจะฆ่ามันมากแค่ไหนก็ตาม… บางครั้ง… ก็ต้องปล่อยให้สัตว์ประหลาดสังหารสัตว์ประหลาดตัวอื่นไป”
เกรอลท์รำพึงรำพันระหว่างขี่ม้าไปกับอาจารย์เฒ่า ริมทางข้างหน้ามีหญิงชาวบ้านคนหนึ่งกำลังล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีชายฉกรรจ์สามคน นั่นคือพวกทหารนิลฟ์การ์ดที่วิทเชอร์จะต้องเอาหัวฟีนด์ไปแลกเป็นเงินค่าจ้าง หญิงสาวพยายามอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ และเกรอลท์ก็ต้องตัดสินใจเลือกอีกครั้ง…
⤝⭑⭑⭑⭑⭑⭑✡ จบบริบูรณ์ ✡⭑⭑⭑⭑⭑⭑⤞
ชื่อเฉพาะภาษาไทยเทียบกับต้นฉบับ
Baltt "The Black" = บอลต์เดอะแบล็ก
Bazyli = บาซีลี
Captain Drugan = นายกองดรูแกน
Lieutenant Massy = รองหัวหน้าหน่วยแมสซี
Vorune = เมืองโวรูน
ไม่มีความคิดเห็น